เครื่องปรับอากาศ ในยุคสมัยปัจจุบันนี้นั้นถือได้ว่าเป็นเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จำเป็นมากสำหรับแทบจะเกือบทุกครัวเรือนทีเดียว เพราะว่าสามารถให้ความเย็นที่ทั่วถึงและมากกว่าพัดลมโดยทั่วไปอย่างมาก ถึงแม้ว่าค่อนข้างจะมีราคาที่แพงกว่ามาก
และยังต้องใช้ปริมาณไฟฟ้าในแต่ละเดือนที่ค่อนข้างแพงกว่าพัดลมมากอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องปรับอากาศก็ยังกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับแทบทุกครัวเรือนในปัจจุบันนี้อยู่ดีนั่นเอง ในบทนี้จึงขอไปค้นคว้าหาวิธีการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาฝากกัน ใครที่กำลังอยากได้เครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่อยู่พอดี ต้องมาติดตามกัน
- การเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศนั้นก็เป็นอีกหลักเกณฑ์ที่สำคัญหลัก
ในการเลือกเครื่องปรับอากาศให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่เราได้จ่ายไป ซึ่งหน่วยวัดขนาดของเครื่องปรับอากาศนั้นเรียกว่า BTU/h
จำนวนของ BTU ที่ควรเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของห้องของเราที่เราจะนำเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นไปไว้ใช้นั่นเอง เท่ากับ (ความกว้าง x ยาว)ของขนาดห้อง และตัวแปรต่างๆ เช่น ห้องโดนแดดมากไหมหรือไม่โดนแดดมากเท่าไหร่ ความสูงของเพดานห้องสูงมากแค่ไหน จำนวนคนที่ต้องใช้งานในห้องนั้นๆ ปริมาณเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในห้องนั้นอยู่แล้ว เช่นนี้เป็นต้น
การที่เราเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU ต่ำมากเกินไปจากความจำเป็นที่เราจะต้องใช้งานจริงๆ จะทำให้คอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อที่จะช่วยปรับคงอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้งไว้ และจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก
และทำให้เครื่องเสียเร็วอีกด้วย ส่วนการเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU สูงจนเกินความจำเป็นของเรามากไปก็ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายโดยใช่เหตุ เพราะว่ายิ่งมี BTU สูงมากเท่าไหร่ เครื่องก็ยิ่งมีราคาแพงมากขึ้นไปอีกนั่นเอง และยังอาจจะทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในห้องเราได้ด้วย
- ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
โดยเบอร์ 5 นั้นเป็นระดับที่ประหยัดไฟมากที่สุด รวมทั้งเครื่องปรับอากาศที่มีค่า EER หรือ SEER สูง โดยค่า EER คือ ค่าประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศในการใช้พลังงาน วัดจากความสามารถในการทำความเย็น (BTU/h) ต่อกำลังไฟที่ใช้ไป (W) ยิ่งถ้าเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นมีค่า EER สูงก็ยิ่งกินไฟน้อยตามไปด้วย
- SEER คือ ค่าประสิทธิภาพของการใช้พลังงานตามฤดูกาลของเครื่องปรับอากาศ
อธิบายได้อย่างง่ายๆ ก็คืออากาศภายนอกมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเราจะใช้วัดกับเครื่องปรับอากาศในระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) โดยถ้าค่า SEER สูง ก็ยิ่งกินไฟน้อยตามไปด้วยเช่นกัน
ในยุคปัจจุบัน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ออกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โฉมใหม่ ที่เรียกกันว่า เบอร์ 5 ติดดาว โดยแบ่งเกณฑ์ประสิทธิภาพเป็น 4 ระดับได้แก่ เบอร์ 5 / เบอร์ 5 -1 ดาว / เบอร์ 5- 2 ดาว / เบอร์ 5- 3 ดาว โดยเครื่องปรับอากาศที่มีจำนวนดาวยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยในการประหยัดไฟมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนั้น เครื่องปรับอากาศในระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถปรับเพิ่มหรือลดความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ได้ตามอุณหภูมิห้อง ก็ยิ่งจะช่วยทำให้เราประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องปรับอากาศในระบบธรรมดาทั่วๆไป และยังมีระบบการทำงานที่เงียบ ไม่มีเสียงรบกวน และยังสามารถให้อุณหภูมิที่คงที่มากกว่าอีกด้วย
นี่ก็คือหลักวิธีการในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาไว้ใช้ภายในบ้านให้คุ้มค่าและช่วยประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุดที่นำมาฝากทุกคนกัน ลองนำหลักวิธีการนี้ไปใช้เลือกเครื่องปรับอากาศกันดู
ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com
