Categories
เคล็ดลับในบ้าน

เทคนิคการเลือกสมาร์ททีวีให้ถูกใจ และใช้งานได้คุ้มค่า

                สมาร์ททีวี นับเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากในเวลาเพียงไม่นานหลังจากเข้ามาในตลาด ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังมีราคาไม่แพงหากเทียบกับเมื่อก่อน แม้ว่าสเปคหรือฟังก์ชันต่างๆ จะมากขึ้นก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าสมาร์ททีวีมีการผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมาทุกปี ราคาจึงไม่ได้สูงเหมือนเมื่อก่อน

ความแตกต่างของ สมาร์ททีวี กับ ทีวีธรรมดา

              สมาร์ททีวีใช้ระบบปฏิบัติการ OS โดยสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ส่วนทีวีธรรมดาจะไม่สามารถทำได้ สมาร์ททีวีจึงใช้ประโยชน์ได้มากกว่า โดยเฉพาะฟังก์ชันที่ใช้อินเทอร์เน็ตต่างๆ เช่น ดูหนังออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ เล่นโซเชียลมีเดีย รวมทั้งเล่นเกม ส่วนระบบปฏิบัติการ OS ที่สมาร์ททีวีแต่ละรุ่นใช้ก็ไม่เหมือนกัน ก่อนจะเลือกซื้อสมาร์ททีวียี่ห้อไหน จึงควรทราบก่อนว่าสมาร์ททีวียี่ห้อนั้นใช้ระบบปฏิบัติการอะไร

  • Android TV เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้ในสมาร์ททีวีหลายยี่ห้อ ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายเหมือนการเล่นโทรศัพท์มือถือระบบ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ผ่าน Play Store หรือ Google Play โดยการลงทะเบียนผ่านอีเมล

  • Web OS เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กับสมาร์ททีวียี่ห้อ LG เพียงยี่ห้อเดียว เพราะเป็นระบบปฏิบัติการที่ LG ผลิตขึ้นมาใช้เอง สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ผ่าน LG Store และรองรับการใช้งานหลายหน้าจอพร้อมกัน

  • Firefox OS เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ระบบอื่นๆ เพราะมีฟีเจอร์สนุกๆ ให้เลือกเล่นมากมาย โดยสมาร์ททีวีที่ใช้ระบบนี้คือ Panasonic

  • Tizen เป็นระบบปฏิบัติการของ Samsung ที่พัฒนาจากระบบปฏิบัติการ Meego ให้ใช้ได้ง่ายมากขึ้น สามารถใช้งานได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ด้วย Smart Hub

เทคนิคการเลือกสมาร์ททีวีให้ถูกใจและใช้งานได้จุใจกว่าเดิม

  1. เลือกขนาดหน้าจอที่เหมาะสม
    สมัยนี้สมาร์ททีวีราคาไม่สูงมาก หลายคนจึงอยากจะเลือกหน้าจอใหญ่ๆ ไว้ก่อน แต่ทั้งนี้การเลือกขนาดหน้าจอทีวี ก็ควรต้องเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ใช้งานด้วย

  2. เลือกรุ่นที่มีความคมชัดสูง
    การเลือกสมาร์ททีวีรุ่นที่มีความละเอียดสูงๆ จะช่วยให้ใช้งานได้นานกว่า และรองรับการรับชมความละเอียดสูงในอนาคตได้
  • เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันเยอะไว้ก่อน
    เพราะสมาร์ททีวีถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานของคนยุคใหม่ จึงมีการคิดค้นเทคโนโลยีและฟังก์ชันใหม่ๆ อยู่เสมอ การเลือกรุ่นที่มีหลายฟังก์ชันไว้ก่อนจึงได้เปรียบกว่า

  • มีพอร์ต HDMI
    เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต และการทำงานหลายรูปแบบ จึงควรเลือกรุ่นที่มีพอร์ต HDMI เพราะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย

              สมาร์ททีวี นั้นมีความต่างกับทีวีธรรมดามาก เพราะเป็นการนำเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้ หากใครที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ การเลือกใช้สมาร์ททีวีนับว่าตอบโจทย์

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

ขจัดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้า จากของง่ายๆ ใกล้ตัว

               ปัญหาคราบเปื้อนบนเสื้อผ้า นับเป็นปัญหาที่ทุกบ้านต้องเคยเจอ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กๆ ด้วยแล้ว ก็น่าจะยิ่งรู้ซึ้งถึงปัญหานี้ได้ดีกว่าใคร วันนี้เราเลยรวบรวมวิธีกำจัดคราบยอดฮิตบนเสื้อผ้าเจ้าตัวเล็ก ด้วยของที่มีอยู่ในบ้านมาฝาก รับรองว่าง่าย รอยเปื้อนหนีกระจายแน่นอน

ดินสอ
วางใจได้เลยสำหรับบ้านที่มีลูกเป็นศิลปิน แถมยังชอบสร้างผลงานบนเสื้อ เพราะพวกรอยดินสอที่เด็กๆ เค้าฝากไว้นั้น สามารถกำจัดได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ ยาสีฟัน ป้ายลงไปบนรอยดินสอ แล้วขยี้เบาๆ จนรอยเริ่มจาง จากนั้นก็นำไปซักตามปกติเลย จากนี้จะมาอีกกี่รอยก็รับไหว

หมึกปากกาลูกลื่น
บางทีเจ้าตัวเล็กก็ยุ่งวุ่นวาย ชอบไปจับนู่น จับนี่ มาขีดเขียน อย่างปากกาลูกลื่นนี่ก็เหมือนกัน เผลอแป๊บเดียว รู้ตัวอีกที ก็มีลายเส้นมาปรากฏบนเสื้อผ้าซะแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง เพราะรอยเปื้อนจากหมึกแบบนี้เอาออกง่าย แค่นำเสื้อที่เปื้อนมาวางทับไว้บนผ้าแห้งสะอาด จากนั้นนำสำลีชุบ แอลกอฮอล์ ชุ่มๆ ค่อยๆ กดลงไปที่รอยเปื้อน ให้หมึกปากกาค่อยๆ ละลาย แล้วก็ป้ายผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้าลงบนคราบอีกครั้ง ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วขยี้เบาๆ ก็สามารถนำเสื้อไปซักตามปกติได้

ซอสมะเขือเทศ
อาหารของเด็กๆ มักมีซอสมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น มักกะโรนีผัดซอส,ไส้กรอกต่างๆ รวมทั้งเฟร้นช์ฟรายด์ของโปรด จึงไม่แปลกที่หลังมื้ออาหารจะต้องมีรอยเปื้อนซอสมะเขือเทศ แต่คราบเปื้อนจากบรรดาซอสต่างๆ นั้นกำจัดได้ง่ายมาก ด้วยการแช่ผ้าที่เปื้อนไว้ในน้ำที่ผสม เบกกิ้งโซดา ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

ช็อคโกแลต
ของโปรดเจ้าตัวเล็กทั้งโลกคงต้องยกให้กับช็อคโกแลต และก็แน่นอนว่ากินทีไรจะต้องได้คราบเปื้อนเป็นของแถมด้วยเสมอ วิธีการทำความสะอาดเบื้องต้น ให้เช็ดออกด้วยทิชชู่เปียก จากนั้นค่อยใช้ มะนาว ฝานครึ่งลูก มาถูๆ ตรงที่เป็นรอยเปื้อน แล้วค่อยนำไปซักตามปกติ

สนิม
เพราะสนามเด็กเล่น คือ สวรรค์ของเด็กๆ และหลังจากก้าวเท้าพ้นสนามเด็กเล่นออกมา ก็มักจะพบรอยสนิมจากเครื่องเล่นติดเสื้อผ้ามาด้วยบ่อยๆ แต่เราสามารถแก้ไขได้โดยนำเปลือก มะนาว มาขัดๆ ถูๆ ลงบนคราบ จากนั้นก็บีบน้ำมะนาวที่เหลืออยู่ลงไปนิดหน่อย ทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วนำไปซัก ถ้าคราบยังไม่ออกก็ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย ใช้แปรงซักผ้าช่วยขัดอีกแรง คราบสนิมก็จะจางลงได้

              ต่อไปนี้ไม่ว่าเด็กๆ จะพาคราบอะไรกลับมาบ้าน คุณแม่ก็เอาอยู่ด้วยวิธีการทำความสะอาดแบบง่ายๆ จากของภายในบ้าน ที่แทบไม่ต้องเสียเงินเลย

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

“ม่าน” ของมันต้องมี สำหรับชาวคอนโด

                 ม่าน นับเป็นอีกหนึ่งในไอเท็มที่ชาวคอนโดจะขาดไม่ได้ เพราะนอกจากใช้ตกแต่งห้องให้สวยงามและช่วยบังแดดให้ห้องเย็นสบายขึ้นได้แล้ว ม่านยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ดีต่อใจชาวคอนโดอีกหลายประการ ถ้าใครยังนึกไม่ออก ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

  1. ใช้แบ่งสัดส่วนห้อง
    คอนโดใครที่มีพื้นที่ไม่มาก และอยากกั้นสัดส่วนห้องให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น การม่านกั้นสัดส่วนคือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะลงทุนน้อยกว่าการติดตั้งบานเลื่อน หรือประตูกระจก ทั้งยังสามารถเลือกสีสันและลวดลายได้หลากหลายอีกด้วย

  2. เพิ่มความเป็นส่วนตัว
    ในกรณีที่คอนโดของเราตั้งอยู่ตรงข้ามกับตึกอื่น การติดม่านจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยได้ โดยให้เลือกม่านแบบทึบแสง เพื่อช่วยปิดบังไม่ให้คนภายนอกสามารถมองเข้ามาได้
  • ป้องกันเสียง
    หลายคนอาจไม่รู้ว่าม่านยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก และดูดซับเสียงภายในห้องได้อีกด้วย แม้จะไม่ได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความดังของเสียงได้มากพอสมควรเลย

  • ป้องกันฝุ่นละออง
    คอนโดใครที่อยู่ใกล้ถนนที่มีการจราจรคับคั่ง นอกจากม่านจะช่วยลดความดังของเสียงได้แล้ว ยังช่วยป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในห้องได้อีกด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมทำความสะอาดม่านบ่อยๆ ด้วยนะ

ลักษณะของผ้าม่านคอนโด

              รูปแบบการติดตั้งม่านในคอนโดนั้นมีหลายลักษณะด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างไป ดังนี้

  • ม่านจีบ เป็นแบบที่นิยมแพร่หลาย ติดตั้งโดยการแขวนผ้าม่านเข้ากับราวม่านด้วยชุดตะขอ ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และแสงลอดผ่านเข้ามาได้น้อย แต่มีข้อเสียคือ ต้องมีไม้จูงม่าน เพราะหากใช้มือเปิดปิดม่านอาจทำให้เสียหายได้ง่าย

  • ม่านตาไก่ เป็นการติดตั้งผ้าม่านที่มีความแข็งแรงมาก ด้วยการเจาะรูเป็นห่วงไว้ที่ด้านบนของผ้าเพื่อสวมกับราวม่าน สามารถเปิดปิดได้ด้วยการใช้มือ แต่คอนโดจะต้องมีพื้นที่ระหว่างฝ้าเพดานกับหน้าต่างพอสมควร เพราะบริเวณที่เป็นห่วงมักจะมีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้

  • ม่านม้วน จะมีความต่างจากม่านทึบตรงที่บางกว่า และวิธีใช้งานต้องใช้รอกดึง เหมาะสำหรับแต่งคอนโดที่มีหน้าต่างติดต่อกันเป็นแนวยาว ข้อดีคือ ทำให้ห้องดู โปร่ง โล่ง และทันสมัย ส่วนข้อเสียคือ แสงแดดสามารถลอดเข้ามาตรงรอยต่อของม่านได้ ทั้งยังไม่สามารถถอดมาทำความสะอาดได้เหมือนม่านแบบรูด
  • ม่านพับ มีการทำงานคล้ายๆ กับม่านม้วน เป็นการเปิดจากล่างขึ้นบน ต่างกันที่การเก็บม่านม้วนจะม้วนขึ้นไป แต่ม่านพับจะพับไว้ที่ด้านบนแทน มีข้อเสียคือ หน้าต่างจะไม่สามารถเปิดได้เต็มบาน และไม่สามารถถอดออกมาความสะอาดได้

             ได้เห็นถึงประโยชน์ของม่านคอนโด และรู้ถึงข้อดีข้อเสียของม่านแต่ละแบบกันไปแล้ว ก็อย่าลืมเลือกติดตั้งม่านที่เหมาะกับคอนโดของเรามาใช้งานกันนะ

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

‘เก้าอี้เกมมิ่ง’ เลือกยังไงให้ถูกใจเกมเมอร์

                  คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจว่า เก้าอี้สำหรับใช้นั่งเล่นเกมโดยเฉพาะนั้นมันแตกต่างจากเก้าอี้ธรรมดายังไง แต่สำหรับเกมเมอร์แล้ว เก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักเล่นเกมโดยเฉพาะ มันดีกว่าจริงๆ

เก้าอี้เกมมิ่ง ดียังไง?

                  เก้าอี้เกมมิ่งในภาพจำของใครหลายคน มักจะเป็นเก้าอี้ที่มีสีสันฉูดฉาด และดีไซน์แปลกตา ซึ่งภายใต้ดีไซน์ที่แตกต่างนั้น มันยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานนั่งได้สบายที่สุด แม้จะต้องนั่งนานๆ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า คนเล่นเกมนั้น มักจะเล่นต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมง หากต้องนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่ดีพอ ก็คงต้องเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิศแน่ๆ เก้าอี้เกมมิ่งจึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

               เก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกับเบาะรถแข่ง ซึ่งจะมีการซัพพอร์ตที่บริเวณหลัง สะโพก และลำคอ ช่วยลดแรงกดทับ ให้ร่างกายไม่ต้องแบกรับน้ำหนักตัวเต็มๆ ป้องกันกระดูกสันหลังบิดเบี้ยวจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เก้าอี้เกมมิ่งนั่งสบายกว่าเก้าอี้ทั่วไป แถมบางรุ่นยังปรับเอนนอนได้อีกด้วย

หลักในการเลือกซื้อเก้าอี้เกมมิ่งมาใช้งาน

  • ดูจากเบาะรองนั่งของเก้าอี้
    เบาะรองนั่งของเก้าอี้เกมมิ่งแต่ละยี่ห้อ จะทำมาจากวัสดุต่างชนิดกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฟองน้ำ หรือเมมโมรีโฟม ควรเลือกเบาะที่นั่งสบาย ไม่นุ่มเกินไป รับน้ำหนักได้ดี และสามารถใช้งานได้นาน เพราะในแต่ละวันจะต้องนั่งนานหลายชั่วโมง หากเบาะทำจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ อาจเสื่อมสภาพได้ง่าย ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

  • ดูจากวัสดุหุ้มเก้าอี้
    วัสดุหุ้มเก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะทำมาจากหนังเทียมอย่าง PU หรือ PVC ซึ่งมีความสวยงาม หรูหราคล้ายหนังแท้ ทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มสบาย และทำความสะอาดง่ายเวลาเปื้อน นอกจากนี้ก็ยังมีเก้าอี้เกมมิ่งที่ทำจากผ้าตาข่าย ซึ่งจะระบายอากาศได้ดีกว่า และไม่กักเก็บความร้อน ใครที่เป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย แนะนำให้เลือกเป็นเก้าอี้แบบตาข่ายก็จะตอบโจทย์มากกว่า

  • ดูจากดีไซน์ของเก้าอี้
    เก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีสีสันฉูดฉาด เพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศ และเพิ่มอรรถรสให้การเล่นเกมได้ นอกจากนี้ก็ยังทำให้ดูโดดเด่นบนหน้าจอ หากมีการสตรีมเกมสดๆ อีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบสีสัน ก็อาจเลือกเป็นเก้าอี้แบบเรียบๆ ได้เช่นกัน

              เกมเมอร์ทั้งหลาย อย่าลืมนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกซื้อเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นเกมดูนะ จะได้มีเก้าอี้ดีๆ ที่ช่วยให้เล่นเกมได้สนุกขึ้น แถมยังเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ทำความรู้จักกับ ‘พัดลมไอเย็น’ ก่อนซื้อมาใช้งาน

                เชื่อว่าหลายคนคงได้ยิน พัดลมไอเย็น กันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ที่ความเย็นจากพัดลมแบบปกติไม่เพียงพอ จึงต้องใช้พัดลมแบบพิเศษมาช่วยเพิ่มความเย็น เพราะพัดลมแบบไอเย็นนั้นสามารถให้ความเย็นได้เกือบเหมือนแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศเลยทีเดียว

เปรียบเทียบพัดลมไอเย็น กับ เครื่องปรับอากาศ

                พัดลมไอเย็น ดีกว่าเครื่องปรับอากาศหรือไม่? เชื่อว่าคำถามนี้จะต้องเกิดขึ้นก่อนซื้อกันอย่างแน่นอน เพราะพัดลมแบบไอเย็นให้ความเย็นได้เหมือนเครื่องปรับอากาศ หลายคนจึงสงสัยว่าถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมเราถึงยังใช้เครื่องปรับอากาศกันอยู่ นั่นก็เพราะว่าประโยชน์ใช้สอยของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่เหมือนกัน ซึ่งความแตกต่างของพัดลมแบบไอเย็นและเครื่องปรับอากาศ มีดังนี้คือ

  • พัดลมไอเย็นมีขนาดเล็กกว่า ทำให้สะดวกต่อการขนย้าย เช่น การสั่งซื้อ หรือการย้ายบ้าน ฯลฯ
  • พัดลมไอเย็นเคลื่อนย้ายได้ เพราะที่ฐานด้านล่างถูกออกแบบมาเป็นล้อเลื่อน จึงเคลื่อนย้ายได้สะดวกในทุกพื้นผิวบ้าน ทำให้ลากไปใช้ในบริเวณต่างๆ ของบ้านได้โดยไม่ต้องยกให้หนัก ทำให้ไม่ต้องอยู่แต่ในห้องเพื่อรับความเย็นแต่สามารถเลือกพื้นที่ที่ต้องการเปิดได้
  • พัดลมไอเย็นกินไฟน้อย โดยกินไฟพอๆ กับพัดลมทั่วไป แถมบางรุ่นยังกินไฟน้อยกว่าอีกด้วย จึงไม่เปลืองไฟเหมือนการเปิดเครื่องปรับอากาศ
  • พัดลมไอเย็นดูแลง่าย ด้วยความที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบตั้งพื้น จึงใช้งานง่าย และสามารถทำความสะอาด หรือถอดถังน้ำออกมาล้างได้ ไม่ต้องปีนขึ้นไปล้างด้านบนเหมือนเครื่องปรับอากาศ หรือจ้างช่างมาล้าง
  • พัดลมไอเย็นมีราคาไม่แพง โดยมีให้เลือกตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับการทำงานของแต่ละรุ่น หากเป็นรุ่นที่ดีหน่อยก็จะมีราคาแพงขึ้น
  • พัดลมไอเย็นทำความเย็นได้เร็ว ในขณะที่เครื่องปรับอากาศต้องใช้เวลาในการทำความเย็น เพื่อให้ความเย็นถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แต่พัดลมแบบไอเย็นสามารถทำให้เย็นได้ตั้งแต่เปิดใช้งาน
  • พัดลมไอเย็นใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน จะเห็นได้จากร้านอาหาร หรือบาร์แบบโอเพ่นแอร์มักนำมาใช้งานกันบ่อยๆ

สิ่งที่พัดลมแบบไอเย็นทำได้คล้ายเครื่องปรับอากาศ

  • ปรับอุณหภูมิได้หลายระดับ
  • ปรับขึ้น – ลงหรือสวิงได้
  • มีให้เลือกหลายขนาด
  • มีลมเย็นสดชื่น
  • มีระบบฟอกอากาศในตัว (บางรุ่น)
  • ตั้งเวลาเปิด – ปิดได้
  • เลือกโหมดการทำงานได้ เช่น โหมดลมเย็นแบบธรรมชาติ โหมดปรับความแรงอัตโนมัติ ฯลฯ
  • มีรีโมทคอนโทรล สามารถสั่งงานระยะไกลได้

             อย่างไรก็ดี พัดลมไอเย็นก็มีการทำงานที่ไม่เหมือนกับเครื่องปรับอากาศ จึงไม่อาจบอกได้ว่าพัดลมแบบไอเย็นนั้นดีกว่า เพราะในหลายๆ ฟังก์ชันก็ทำงานไม่ได้เหมือนเครื่องปรับอากาศ จึงไม่สามารถใช้แทนกันได้ทั้งหมด โดยเฉพาะพัดลมไอเย็นจะให้ความเย็นได้ในพื้นที่จำกัด ไม่กระจายความเย็นได้กว้างเหมือนเครื่องปรับอากาศ การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าต้องการใช้งานแบบไหน

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

ไอเดียแต่งห้องทำงานให้ดูผ่อนคลาย สไตล์ Work & Relax

                   ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าใครที่ต้อง Work From Home นานๆ เชื่อว่าคงมีความคิดอยากจะหาไอเดียแต่งห้องทำงานให้สวยๆ ดูแล้วผ่อนคลาย สบายตาสบายใจ แถมยังได้พื้นที่สำหรับทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กันด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมไอเดียแต่งห้องทำงาน ที่ช่วยให้สามารถ Work & Relax ไปด้วยกันได้ มาดูกันดีกว่าว่ามีไอเดียอะไรบ้าง

  1. เน้นความคลีน &  มินิมอล
    สำหรับใครที่ชอบความสะอาด สบายตา การแต่งห้องแบบคลีนๆ เน้นความมินิมอล ดูจะเหมาะที่สุด เคล็ดลับคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงาน เช่น ใช้โต๊ะทำงานที่เป็นเนื้อไม้ สีขาว หรือแบบที่มีขาโปร่งๆ ไม่ทึบ จัดวางคู่กับโคมไฟทรงยาว ที่สำคัญคือไม่ควรใช้โต๊ะทรงหนาหรือตัน แต่ถ้าอยากได้ที่เก็บของ ก็ให้ใช้เป็นชั้นวางโปร่งๆ แทน ก็จะช่วยให้ดูสบายตาขึ้น
  • เติมสีเขียวให้กับพื้นที่
    ในห้องทำงานที่คนเรามักจะเครียดกับงานอยู่แล้ว ไม่ควรแต่งห้องให้มีบรรยากาศเครียดไปอีก อย่างการตกแต่งด้วยสีเทา หรือสีออกทึมๆ ทั้งหมด หากเป็นคนไม่ชอบสีสัน แนะนำให้ตกแต่งโดยการเพิ่มสีเขียวจากธรรมชาติเข้าไป นั่นก็คือ ให้หาไม้ประดับสีเขียวขนาดเล็ก เอามาวางไว้ตามมุมต่างๆ ของห้อง เพียงเท่านี้จากห้องทำงานที่เคยดูเคร่งเครียด ก็จะเปลี่ยนเป็นสบายขึ้น และสีเขียวยังเป็นสีที่ช่วยพักสายตาให้เราได้ด้วย เหนื่อยเมื่อไหร่ก็มองต้นไม้ ได้ความสดชื่นขึ้นแน่นอน
  • เลือกมุมทำงานที่มีแสงเข้า
    ในความเป็นจริงแล้วห้องทึบๆ ไม่ควรใช้เป็นห้องทำงาน แต่เราสามารถเปลี่ยนให้ห้องสว่างและโปร่งขึ้นได้ ด้วยการแต่งมุมทำงานไว้ใกล้ๆ หน้าต่าง ให้มีแสงสาดเข้ามาและมองเห็นวิวด้านหน้า จะช่วยให้พื้นที่ดูโล่งขึ้น อีกทั้งถ้าเราเลือกใช้พื้นผนัง โต๊ะ และของตกแต่งสีขาวด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้บรรยากาศดูสว่างขึ้น
  • จัดมุมทำงานไว้ในห้องนั่งเล่น
    ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะจัดมุมทำงานไว้ในห้องนอน แต่เรายังสามารถตกแต่งมุมทำงานไว้ในห้องนั่งเล่นได้ด้วย โดยแต่งให้ทั้งโซนออกมาเป็นสไตล์เดียวกัน นอกจากเราจะได้พื้นที่กว้างขึ้นแล้ว บรรยากาศของมุมทำงานก็จะดูสดใสมากขึ้นด้วย

                  นอกเหนือจากที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้ว สำหรับสายสตรีมมิ่ง หรือเกมเมอร์ ที่รักการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ก็ยังสามารถแต่งห้องทำงาน ให้เป็นมุมเล่นเกมในเวลาเดียวกันได้ด้วย โดยเลือกใช้อุปกรณ์ในห้อง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ คอมพิวเตอร์ ไฟ และเก้าอี้นั่งที่รองรับสรีระได้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

เทคนิคการตกแต่งห้องนั่งเล่น

ขนาดเล็กกะทัดรัดให้ดูสวยงามและผ่อนคลาย

วันนี้มาชวนเพื่อนๆมาตกแต่งห้องนั่งเล่นที่บ้านกันค่ะ แม้ว่าห้องนั่งเล่นของเราจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ก็มีวิธีที่สามารถตกแต่งให้ดูกว้างขึ้นและยังสวยงามอีกด้วย กับเทคนิคการตกแต่งห้องนั่งเล่นแบบง่ายๆ มาฝากกัน

ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูกันค่ะว่ามีเทคนิคอย่างไรบ้าง

การจัดเว้นระยะห่าง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีระยะห่างที่เหมาะสม

การจัดวางในระดับ ตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยให้มีพื้นที่ภายในห้องเพิ่มขึ้น เช่น การวางทีวี ควรจัดวางไว้ในระดับสายตาที่เหมาะสม วางบนชั้นหรือตู้ที่สูงพอดี และยังจัดวางของอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปด้วยได้อีก ภายในชั้นที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ ที่ว่างที่มีเพิ่มขึ้นเราก็หาพรม หรือว่าโซฟาตัวเล็กๆสวยๆสักตัวมาวางไว้นั่งพักผ่อนได้อีก

สีสันลวดลายของเนื้อผ้าที่ใช้ในห้องนั่งเล่น

สีสัน และลวดลายของเนื้อผ้าในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะเป็น ผ้าม่าน โซฟา เก้าอี้ พรม หรือว่าสิ่งอื่นๆ ที่ใช้ในห้อง คุณสามารถใช้สี ลวดลาย ที่สวยงาม ตามแบบที่คุณชอบ หรือว่าจะเป็นแบบแนวศิลปะที่คุณชอบ โชว์ความเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นตัวของคุณเองได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งโทนสีที่คุณชอบก็จะเปลี่ยนให้ห้องนั่งเล่นมีสีสันมากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นโทนสีร้อน หรือสีเย็นก็ตาม

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่ภายในห้อง

ถ้าพื้นที่ห้องนั่งเล่นของคุณมีขนาดจำกัด ให้คุณพยายามเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเล็กเอาไว้ก่อน เพื่อให้พื้นที่ภายในห้องไม่ดูคับแคบจนเกินไป เวลานั่งพักผ่อนจะได้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ใช้พื้นที่ทำกิจกรรมที่คุณสนใจได้บ้าง

สีที่ใช้ไม่ซ้ำกันภายในห้องเดียวกัน

การใช้สีในบางมุมที่ไม่ซ้ำกัน ภายในห้องเดียวกัน เช่น มุมนี้ใช้สีฟ้า ส่วนอีกมุมหนึ่งใช้สีชมพู หรือว่าใช้สีที่ตัดกันไปเลย เช่น มุมนี้ใช้สีฟ้า อีกมุมหักเป็นสีส้มไปเลย เพื่อให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูน่าสนใจ และมีสีสันมากขึ้น

การเลือกใช้สีพื้นผิวของวัสดุที่ใช้

การใช้สีที่มาจากวัสดุพื้นผิว เช่น ผิวคอนกรีต หิน อิฐ หรือพื้นผิวไม้ โดยไม่ต้องดัดแปลง จะสามารถทำให้ห้องดูเก๋ และดูน่าพักผ่อน สบาย คลายเครียด อาจจะเพิ่มการตกแต่งที่ดูเป็นธรรมชาติเพิ่มเข้าไปด้วย เช่น ดอกไม้ ต้นไม้เล็กๆ ของประดับตกแต่งที่เป็นธรรมชาติ จะดูสวยงามเป็นธรรมชาติ

เป็นเทคนิคง่ายๆที่นำมาแนะนำกัน อย่าลืมนำไปใช้กันนะ

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

เทคนิคแต่ง”ห้องนั่งเล่น”เดิมๆ ให้ดูไม่น่าเบื่อ

ห้องนั่งเล่น นับเป็นอีกหนึ่งห้องภายในบ้าน เป็นเหมือนศูนย์รวมของครอบครัว

ที่ทุกคนในบ้านมักจะมาใช้งานด้วยกันเสมอๆ รวมทั้งใช้รับแขกที่มาเยี่ยมเยียนอีกด้วย หลายบ้านเมื่อใช้ห้องนั่งเล่นเดิมไปนานๆ และไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้างเลย ก็อาจรู้สึกเบื่อได้ วันนี้เราจึงมีวิธีแก้เบื่อให้กับห้องนั่งเล่นเดิมๆ มาฝากกัน เป็นวิธีที่ทำตามได้ง่าย และแทบไม่ต้องเสียงบประมาณในการรีโนเวทอะไรเลย จะมีวิธีไหนบ้าง ลองมาดูกัน

เติมสีสัน

ห้องนั่งเล่นเดิมๆ อาจมีสีสันที่จืดชืด หรือเราอาจเห็นแต่สีเดิมๆ กันจนเบื่อแล้ว จึงควรเติมสีสันให้ดูแปลกใหม่ขึ้นมาบ้าง ด้วยการหาของตกแต่งสีสดๆ มาวางไว้ตามจุดต่างๆ ของห้อง เช่น หมอนอิง โคมไฟ หรือแจกันดอกไม้ เพียงเท่านี้ ห้องก็ดูสดใสขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ สียังช่วยในเรื่องของอารมณ์ได้ด้วย เช่น หากต้องการให้ห้องดูสดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้น ก็ให้หาของตกแต่งที่เป็นสีเขียวมาใช้เป็นสีหลัก เป็นต้น

ใช้กระจกเป็นตัวช่วย

กระจกนับเป็นอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งที่หาได้ง่าย และสามารถนำมาเป็นตัวช่วยในการแต่งบ้านได้ดี เพราะนอกจากจะใช้ประโยชน์ทางตรงได้แล้ว เมื่อนำมาวางในห้องนั่งเล่น ยังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น สว่างขึ้น และดูมีมิติน่าสนใจขึ้นได้ ยิ่งหากเรารู้จักเลือกกระจกที่มีดีไซน์สวย ก็จะยิ่งทำให้บ้านดูมีสไตล์มากขึ้นด้วย

สร้างจุดเด่นให้กับห้อง

ห้องที่ดูน่าเบื่อ มักจะเป็นห้องที่ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่นหรือจุดสนใจ เราจึงควรสร้างจุดเด่นให้กับห้อง โดยการเลือกตกแต่งจุดใดจุดหนึ่งให้มีความโดดเด่นขึ้นมา เช่น อาจจะหาของโชว์ที่มีลักษณะเด่นๆ มาวางไว้บนชั้นวางของ หรือหาภาพงานศิลปะเก๋ๆ มาติดไว้บนผนังห้องด้านใดด้านหนึ่งก็ได้

ตกแต่งด้วยผลไม้

เชื่อว่าการตกแต่งห้องนั่งเล่นด้วยแจกันดอกไม้ น่าจะเป็นเทคนิคที่คนทั่วไปใช้กันจนชินตา ซึ่งนานๆ ไป ความคุ้นเคยนี้ ก็อาจกลายเป็นความน่าเบื่อได้ ฉะนั้น หากเราลองเปลี่ยนมาเป็นอย่างอื่นบ้าง เช่น นำผลไม้รูปทรงสวยๆ สีสันสดใส มาจัดวางในภาชนะดีไซน์เก๋ๆ ก็จะทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น เทคนิคคือ ควรเลือกผลไม้ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เหี่ยวเฉาเร็ว อย่าง เลม่อน ส้ม แอปเปิ้ล ก็จะดีมากๆ

นอกจากเทคนิคเหล่านี้จะทำตามได้ไม่ยากแล้ว ยังไม่สิ้นเปลือง และสามารถนำไปใช้กับห้องอื่นๆ นอกเหนือจากห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย หากใครที่เริ่มเบื่อๆ กับการตกแต่งห้องแบบเดิมๆ และมีงบจำกัด ก็สามาถนำเทคนิคที่ว่านี้ไปลองปรับใช้กันได้เลย

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ไอเดียแต่ง”ห้องนั่งเล่น”งบน้อยพื้นที่จำกัด

ห้องนั่งเล่นถือเป็นอีกห้องหนึ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าสำคัญเป็นอันมาก เพราะห้องนั่งเล่นนอกจากจะใช้เป็นห้องสำหรับรับแขกแล้วยังรวมถึงการเป็นศูนย์รวมของครอบครัว

เป็นพื้นที่แห่งความสุขให้คนในบ้านได้พักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ซึ่งในแต่ละครอบครัวก็จะมีแนวทางการตกแต่งบ้านที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับพื้นที่และงบประมาณของแต่ละครอบครัว

ในวันนี้เรามีไอเดียเก๋ๆมานำเสนอสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด และต้องการควบคุมงบประมาณในการตกแต่งห้องนั่งเล่น ถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัดแต่คุณก็สามารถทำให้บ้านมีเสน่ห์และสวยงาม แถมมีพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่าได้ ตามมาดูกันเลย

  • การเลือกใช้โทนสีขาวหรือสีเบจ การใช้สีขาวหรือสีเบจจะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูกว้างมากยิ่งขึ้น เพราะจะช่วยลวงสายตา คุณจะรู้สึกว่าห้องมีความโปร่งโล่งและยังทำให้ห้องของคุณดูสบายตาอีกด้วย แล้วคุณก็อาจเลือกใช้กระจกมาตกแต่งเพิ่ม ถ้าคุณอยากได้สีสันเพิ่มก็หากระจกที่มีกรอบสี ก็เป็นการเพิ่มเลเยอร์ ที่สำคัญการใช้กระจกก็ช่วยเพิ่มมิติ ทำให้ขนาดของห้องดูลึกและใหญ่ขึ้นมาก
  • การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งห้องจริงๆแล้วหลายคนอาจคิดว่าไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้วการเลือกของที่มีขนาดชิ้นใหญ่นั้นก็สามารถทำได้แถมยังทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วยแต่จำนวนชิ้นนั้นก็ต้องดูให้อยู่ในความพอดี ส่วนเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กก็สามารถใช้ได้เช่นกันแต่ไม่ควรมีจำนวนชิ้นที่มากจนเกินไปจนเกินความพอดี เพราะจะทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณนั้นดูรกและแคบ การที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ควรเลือกขนาดพอเหมาะจะทำให้ห้องของคุณดูโปร่ง ไม่รกจนเกินไปและที่สำคัญยังทำให้คุณมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นอีกด้วย
  • การจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ คุณควรจัดวางแบบแยกชัดๆเป็นโซนๆ หรืออาจจะเป็นการจัดวางให้เฟอร์นิเจอร์อยู่มุมใดมุมนึงในห้องเป็นการเพิ่มพื้นที่ตรงกลางให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เช่น การจัดวางโซฟาตัวยาว หรือโทรทัศน์ คุณควรจัดวางไปที่มุมห้อง มุมใดมุมหนึ่งเท่านี้ก็ลงตัว
  • การเลือกใช้พื้นที่แนวตั้งให้คุ้มค่า การที่ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่จำกัดนั้นทำให้การจัดของในแนวราบทำได้อย่างจำกัดตามไปด้วย คุณควรหันไปใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้ง หากคุณเลือกวางของตกแต่งและใช้พื้นที่แนวตั้งให้เป็นประโยชน์อย่างเช่นการเพิ่มการติดตั้งชั้นวางของเข้ากับผนังของคุณ ก็เป็นการใช้ผนังห้องอย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์มากที่สุด แถมยังช่วยทำให้พื้นที่แนวราบของห้องมีพื้นที่โล่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
  • การเลือกของตกแต่งเพิ่มมิติเพื่อดึงดูดสายตา เราอาจเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่หรือว่าของตกแต่งมีรูปร่าง-รูปทรงสวยๆ หรืออาจจะเป็นลวดลายแปลกๆ เพื่อเป็นจุดสนใจ ดึงดูดสายตาให้คนโฟกัสของมากกว่าจะโฟกัสขนาดของห้องนั่งเล่น

หากใครมีแพลนที่กำลังจะตกแต่งหรือรีโนเวทห้องนั่งเล่นใหม่ ไอเดียเหล่านี้สามารถนำไปเป็นแนวทางปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ในการตกแต่งบ้านที่คุณชอบได้ ลองออกแบบ วางแพลนและนำไอเดียไปต่อยอดใช้กันได้เลย เราไม่หวง รับรองว่าพื้นที่ห้องนั่งเล่นของคุณจะเป็นพื้นที่แห่งความสุขของทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com