Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

แต่งบ้านให้น่าอยู่ อบอุ่น เป็นกันเอง ตามสไตล์โฮมมี่

                 เหน็ดเหนื่อยมาจากการทำงานประจำตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์แล้ว พอถึงวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดพักผ่อน หลายคนก็คงอยากจะหลบหลีกความวุ่นวายของบรรยากาศในเมือง ออกมาอยู่ในบรรยากาศสบายๆ กันบ้าง ซึ่งเราสามารถทำให้บ้านของเราเองมีบรรยากาศแห่งการพักผ่อนในแบบที่ว่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหน วันนี้เรามีไอเดียการตกแต่งบ้านที่เรียกว่า สไตล์โฮมมี่ มาแนะนำ จะมีวิธีการตกแต่งอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันเลย

สวนสวยในบรรยากาศอบอุ่น
ในวันหยุดสบายๆ ใครๆ ก็คงอยากจะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนนอกบ้านชิลล์ๆ ลองเลือกวัสดุประเภทไม้มาเป็นองค์ประกอบหลัก แล้วปรับสวนให้มีบรรยากาศอบอุ่น สะท้อนอารมณ์บ้านๆ โดยการนำวัสดุที่สื่อถึงความเป็นพื้นบ้านอย่างลำไม้ไผ่ มาทำเป็นฝ้าเพดาน แล้วประดับเพิ่มเติมด้วยงานหัตถกรรม และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์เรียบง่าย เสริมอารมณ์ธรรมชาติเข้าไปด้วยต้นไม้กระถาง เท่านี้ก็เป็นมุมพักผ่อนแบบกันเองท่ามกลางธรรมชาติแล้ว

ตกแต่งบริเวณหน้าประตูบ้านให้น่ามอง
ลองมาเปลี่ยนมุมเล็กๆ อย่างประตูหน้าบ้านที่หลายคนมักมองข้ามให้อบอุ่นมากขึ้น ด้วยการใช้กระจกโปร่งๆ เป็นตัวช่วย เน้นการเปิดโล่งด้วยกระจกใสเพื่อรับแสงจากธรรมชาติให้มากที่สุด คู่กับประตูบานไม้ ที่นอกจากจะทำให้ดูทันสมัยขึ้นและอบอุ่นมากๆ แล้ว การตกแต่งด้วยกระจกยังช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภายในตัวบ้านได้อีกด้วย

เจือกลิ่นอายชนบท
แม้บ้านจะอยู่ติดถนนกลางเมือง แต่ก็สร้างบรรยากาศอบอุ่นแบบโฮมมี่ได้ ด้วยการตกแต่งภายในโดยเน้นโทนสีไม้ เข้ากันดีกับผนังกระจกโปร่ง และมีการนำไม้มากรุผนังในบางส่วน วางโต๊ะเก้าอี้เรียบง่ายเป็นมุมสบายๆ ข้างหน้าต่าง เพิ่มเติมด้วยการประดับดอกไม้แห้ง โคมไฟตะเกียง ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นให้กับบ้านได้ดีเช่นกัน

ห้องนั่งเล่นแสนสบาย
มุมนั่งเล่นเป็นมุมที่คนในบ้านใช้งานกันบ่อยที่สุด ทั้งนั่งเล่น ดูทีวี กินของว่าง รวมทั้งใช้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน จึงควรเน้นตกแต่งห้องนั่งเล่นให้ดูสบายตา เช่น โทนสีขาว เขียว และสีไม้ธรรมชาติ ในสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ที่เข้ากันทั้งยุคสมัยและดีไซน์ รวมทั้งงานสาน งานหวาย และผ้าทอ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบกระถางต้นไม้ หรือตะกร้าใส่ของ จับวางรวมกันแล้วดูกลมกลืนสุดๆ

             ขอแค่รู้จักการเลือกสไตล์การตกแต่งได้ดี เราก็จะสามารถทำให้บ้านดูอบอุ่น น่าพักผ่อนได้หมด ไม่ว่าบ้านจะเป็นแบบไหน มาลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้านเดิมที่แสนจะธรรมดาให้น่าอยู่ตามสไตล์โฮมมี่ ที่ทั้งผ่อนคลาย อยู่สบาย และมีความสุขในทุกๆ วันกันเถอะ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

แต่งห้องนอนให้น่านอนแบบประหยัดงบ

             ห้องนอน นับเป็นพื้นที่ที่เราใช้เวลากับมันมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน เพราะต้องใช้นอนทุกวัน ฉะนั้นการมีห้องนอนที่สวยงามน่านอน ย่อมดีกว่าห้องนอนเน่าๆ โทรมๆ เป็นไหนๆ แต่ใครก็รู้ดีว่า การจะตกแต่งห้องให้สวยงามน่านอนได้นั้น จะต้องใช้งบประมาณไม่น้อยเลย จะดีกว่าไหมถ้าเราจะหยิบเอาข้าวของง่ายๆ ใกล้ตัว มาเป็นไอเท็มเสริม

ช่วยแต่งเติมให้ห้องนอนแสนรักมีบรรยากาศน่านอนยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเปลืองงบประมาณมากมาย นอกจากนี้ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของผู้เป็นเจ้าของห้องได้ดีอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียตกแต่งห้องนอนอยู่ วันนี้เรามีไอเดียแต่งห้องนอนแบบประหงัดงบมาแนะนำ

เตียงนอนจากไม้พาเลท
ไอเดียนี้นับว่ากำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงอย่างมาก คือการนำลังใส่สินค้าหรือไม้พาเลทเหลือใช้ มาวางเป็นแท่นสำหรับเตียงนอนแบบเรียบง่ายโดยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นำมาวางต่อกันก็กลายเป็นเตียงดีไซน์สุดชิคได้แล้ว ส่วนบริเวณหัวเตียงก็สามารถนำลังไม้เก่ามาดัดแปลงเป็นชั้นวางของแนวๆ ได้อีกด้วย รับรองว่าเก๋ไม่ซ้ำใครแน่นอน

เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นและเรียบง่าย
เมื่อต้องการจะตกแต่งห้องนอนให้น่านอนแบบประหยัดงบ ก็ควรตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เท่าที่จำเป็น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้ครบครัน อย่างเช่นการวางฟูกนอนกับพื้น ส่วนบริเวณผนังหัวเตียงทำเป็นขอบยื่นออกมา สำหรับใช้วางของใช้และของตั้งโชว์ เพิ่มเติมด้วยการเลือกชั้นไม้ราคาประหยัดมาใช้เป็นโต๊ะข้างเตียง เท่านี้ก็ช่วยให้บรรยากาศในห้องนอนดูสวยแบบเรียบง่าย เป็นกันเอง แถมยังน่านอนสุดๆ แล้ว

ตะแกรงเหล็กหัวเตียง
หากห้องนอนของใครรู้สึกว่าพื้นที่บริเวณหัวเตียงดูโล่งเกินไป ลองมาเพิ่มความโดดเด่นด้วยตะแกรงเหล็กในลุคอินดัสเทรียลกันสักหน่อยดีกว่า โดยการนำตะแกรงเหล็กมายึดกับผนังด้านหัวเตียง จากนั้นก็นำแผ่นไม้เหลือใช้มาติดไว้ในบางช่อง เพื่อเป็นการสร้างลูกเล่นให้ห้องนอนมีมิติ ไม่น่าเบื่อ

หมอนอิงสวยๆ ช่วยได้
อีกหนึ่งวิธีสุดง่าย และเรียกได้ว่าประหยัดงบในกระเป๋าได้มากที่สุด นั่นก็คือการเลือกหมอนอิงเก๋ๆ มาใช้ในการตกแต่งให้ห้องนอนจืดๆ ดูมีสีสันขึ้นได้แบบทันตา หรืออาจเลือกใช้เป็นหมอนดีไซน์แปลกๆ ก็ได้ แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มันได้เลย

                 ใครที่รู้สึกว่าตัวเองงบน้อย แต่อยากตกแต่งห้องนอนให้สวยแปลกตา และน่านอนในแบบที่ไม่เหมือนใคร ในราคาที่สามารถจ่ายได้แบบสบายกระเป๋า ก็อย่าลืมนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้กับห้องนอนของตัวเองกันดูนะ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

วิธีแต่งบ้าน ที่เรามักพลาดกันบ่อยๆ

เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องอยากจะแต่งบ้านให้ออกมาสวยดูดี เป็นที่เจริญหูเจริญตา ทั้งต่อตัวเจ้าของบ้านเอง และแขกผู้มาเยือน แต่บางครั้งเราก็อาจเผลอทำผิดพลาดขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว จากการมองข้ามวิธีการตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ตามที่ควรจะเป็น จนทำให้บ้านออกมาไม่สวยน่ามองอย่างที่ต้องการ วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีแต่งบ้านแบบผิดๆ ที่คนมักทำพลาดกันเป็นประจำมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

ซื้อพรมขนาดเล็กเกินไป
พรมสวยๆ ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมาก ในการตกแต่งบริเวณมุมนั่งเล่นหรือข้างเตียงในห้องนอน ให้ดูสวยโดดเด่น น่าสนใจขึ้นมาได้เยอะเลยทีเดียว แต่การซื้อพรมมาผิดขนาด นอกจากจะไม่ช่วยให้ห้องดูสวยแล้ว ยังจะทำให้ห้องดูแคบลงไปอีก เพราะพรมที่เล็กเกินไป จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหญ่เทอะทะขึ้นมาในทันที ฉะนั้นควรเลือกซื้อพรมที่มีขนาดพอเหมาะกับขนาดของเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั้นๆ ด้วย

เลือกเฟอร์นิเจอร์ผิดขนาด
โดยทั่วไป คนเรามักจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่ชอบไว้ก่อน โดยไม่ค่อยสนใจองค์ประกอบอื่นๆ กันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องของขนาดที่พอดีกับพื้นที่ห้องของตัวเอง ทำให้ได้เฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไปมาแต่งบ้านกันบ่อยๆ ทางที่ดีจึงควรวัดขนาดพื่นที่ห้องให้เรียบร้อย ก่อนออกไปซื้อเฟอร์นิเจอร์

ใช้สีอ่อนกับห้องที่สว่างอยู่แล้ว
สำหรับห้องที่เปิดรับแสงมากอยู่แล้ว ไม่ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้อง ที่เป็นสีสว่างๆ เช่น สีขาว สีครีม หรือสีเหลืองอ่อน มากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้สีในห้องดูซีดหมอง ไม่สดใส ควรหาสีโทนเข้มมาช่วยเสริม เพื่อให้ห้องดูมีมิติ น่ามองมากยิ่งขึ้น

ไม่หาต้นไม้มาประดับเลย
แม้จะเป็นคนที่ชื่นชอบการตกแต่งแนวโมเดิร์น แต่ก็ควรเลือกไม้ประดับสวยๆ มาใช้ตกแต่งห้องด้วย เพราะต้นไม้จะช่วยให้บรรยากาศของห้องดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นอีกเยอะ และยังเข้ากับการตกแต่งได้ทุกสไตล์ นอกจากนี้ยังช่วยให้บ้านดูผ่อนคลายได้มากขึ้น จึงถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ใส่ของจุกจิกมากเกินไป
สาวๆ หลายคน มักจะมีของสะสมจุกจิกน่ารักๆ เยอะ และก็อยากเอาออกมาโชว์แขกที่มาเยี่ยมบ้าน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรจำกัดจำนวนของโชว์ ไม่ให้มากจนเกินไป เพราะจะทำให้ห้องรกจนไม่น่ามอง ควรเลือกของแบบที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านมาวางไว้เพียงไม่กี่ชิ้นก็พอแล้ว

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครรู้ตัวว่าพลาด ก็ลองไปปรับวิธีการตกแต่งกันดูใหม่นะ เพื่อจะได้ห้องสวยแบบที่ใจต้องการ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

จัดโต๊ะอาหารตามหลักฮวงจุ้ย เสริมพลังบวกให้

                  เรื่องของศาสตร์ ฮวงจุ้ย นับเป็นความเชื่อที่มีมายาวนาน และยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอจนกระทั่งปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าหากทำถูกต้องตามหลักแล้ว ก็จะช่วยเสริมให้เกิดโชคลาภ ความเจริญก้าวหน้า และนำพาแต่สิ่งดีๆ มาสู่คนในบ้าน ไม่เพียงเท่านั้นฮวงจุ้ยยังช่วยเรื่องของความสัมพันธ์ และความสงบสุขของครอบครัวอีกด้วย

                  เมื่อพูดถึงฮวงจุ้ย หลายคนก็มักจะนึกไปถึงการจัดบ้าน หรือการตกแต่งห้องต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าแม้แต่พื้นที่เล็กๆ อย่างโต๊ะอาหาร ก็สามารถใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ยมาเป็นตัวช่วยในการตกแต่งได้ด้วยเหมือนกัน

รูปทรงของโต๊ะ
ก่อนอื่นเลยควรเลือกโต๊ะอาหารให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง โดยรูปทรงที่ช่วยเสริมพลังงานด้านดี และเหมาะสมจะเป็นโต๊ะอาหารมากที่สุดก็คือทรงรีและทรงกลมที่มีความโค้งมน แต่หากจำเป็นต้องใช้ทรงสี่เหลี่ยม ก็อาจเสริมด้วยพรมเพื่อช่วยปรับให้สมดุลยิ่งขึ้น

ตำแหน่งที่ตั้งของโต๊ะ
ตำแหน่งที่ตั้งของโต๊ะอาหารที่ดีที่สุด คือ บริเวณกลางห้อง โดยหันมุมโต๊ะเล็กน้อยไปทางผนัง เพื่อให้พลังงานบวกไหลเวียนไปตามแนวเส้นโค้งได้

จัดโต๊ะแบบเรียบง่าย
การจัดโต๊ะอาหารเพื่อเพิ่มความสงบสุขให้กับคนในบ้าน ควรเน้นรูปแบบและสีสันที่เรียบง่าย โดยเลือกอุปกรณ์บนโต๊ะที่มีสภาพดี ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม แก้วน้ำ ช้อนส้อม ไม่ควรบิ่นหรือแตกหัก ส่วนการตกแต่งตกโต๊ะควรมีแค่ 1 – 2 สี โดยเน้นเป็นลายเส้นแนวตั้ง จะช่วยเสริมพลังงานได้สูงกว่าลายอื่นๆ

ตำแหน่งที่นั่งบุคคลสำคัญ
บุคคลสำคัญของครอบครัว ควรนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ดี ซึ่งควรมีด้านหลังเป็นผนังหรือกำแพงทึบ ห่างจากประตู และไม่ควรมีหน้าต่างอยู่ด้านหลัง เพราะจะทำให้สูญเสียพลังงาน และรู้สึกไม่มั่นคง

ผลไม้ ดอกไม้ เสริมความสุข
ลองนำภาชนะทรงกลมใส่ผลไม้วางไว้กลางโต๊ะอาหาร หรือจะเป็นแจกันดอกไม้เสริมความสดชื่นสดใสก็ได้ โดยเป็นให้ใช้เป็นดอกไม้สด ควรหลีกเลี่ยงดอกไม้แห้ง เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนล้าแทนสดชื่น สำหรับผลไม้แนะนำเป็น ส้ม แอปเปิ้ล และลูกแพร์ จะช่วยเสริมความร่ำรวย มั่งคั่ง และสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ

                 และทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยเนรมิตโต๊ะอาหารในบ้าน ให้กลายเป็นจุดที่รับแต่พลังงานด้านบวกเข้ามา ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว ให้พูดคุยกันเข้าใจกัน และมีแต่ความสงบสุข ใครที่อยากให้การทานข้าวร่วมกันในทุกๆ วันของคนในครอบครัว นำพามาแต่เรื่องดีๆ ก็ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับโต๊ะอาหารที่บ้านของตัวเองกันดูนะ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ทำความรู้จักกับตู้เย็น 2 ประตู 2 สไตล์

Side by Side และ French door

          ตู้เย็น 2 ประตู อาจเป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่าเลือกซื้อได้ไม่ยาก แค่เลือกขนาดความจุให้พอดีกับความต้องการใช้งาน เลือกแบรนด์น่าเชื่อถือ ซื้อรุ่นที่ประหยัดไฟ และราคาพอรับได้ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้นตู้เย็น 2 ประตู ยังมีแบบ Side by Side และ แบบ French Door ซึ่งจัดเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ประเภท 2 ประตูเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่าง เรามาทำความรู้จักกับตู้เย็นทั้ง 2 แบบกันดีกว่า

ตู้เย็น Side by Side 2 ประตู

                ตู้เย็นแบบนี้เริ่มต้นใช้กันที่ยุโรป ต่อมาก็มาฮิตกันในอเมริกา เนื่องจากวัฒนธรรมการจับจ่ายซื้ออาหารของคนยุโรปและอเมริกานั้น มักจะนิยมการช้อปปิ้งไม่บ่อยครั้ง แต่จะเน้นซื้อครั้งละมากๆ เพื่อไปกักตุนไว้กินกันได้ตลอดสัปดาห์ ดังนั้นจึงต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่ เพื่อกักเก็บอาหารไว้ได้นานๆ และมีระบบทำความเย็น ช่องแช่แข็งที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงเรื่องของดีไซน์ ก็ต้องสอดรับกับวัฒนธรรมตะวันตก ที่จะไม่ได้มีพื้นที่กว้างสำหรับการเปิดประตูตู้เย็นมากนัก การดีไซน์ประตูของตู้เย็น side by side จึงทำให้เปิดได้ทั้งซ้ายขวา เพื่อเป็นการลดพื้นที่สำหรับการเปิดประตูนั่นเอง

                ข้อดีของดีไซน์ Side by Side ที่เห็นชัดที่สุดคือเรื่องความยืดหยุ่นในการใช้งาน ที่สามารถสลับสับเปลี่ยนชั้นวางภายในได้หลายรูปแบบ ทำให้จัดวางและแช่สิ่งของได้หลายขนาดหลายรูปทรงมากขึ้น บางรุ่นก็เพิ่มระบบกดน้ำมาที่หน้าประตูตู้ด้วย

                ส่วนข้อเสียของตู้เย็น Side by Side ก็คือ แม้จะแบ่งแยกสัดส่วนออกมาเป็น 2 ฝั่งก็จริง แต่จะมีฝั่งหนึ่งที่แคบกว่า ด้วยความกว้างที่จำกัด จึงอาจทำให้นำภาชนะใส่อาหารใหญ่ๆ เข้าไปแช่ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการพื้นที่ของแต่ละคน และด้วยความที่มันมีขนาดใหญ่ จึงต้องใช้กำลังไฟมาก กินไฟมากกว่า และมีราคาสูงกว่าตู้เย็นขนาดกลางๆ ทั่วไปพอสมควร

ตู้เย็น French door 2 ประตู

               โดยปกติแล้วตู้เย็นทั่วไปจะมีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน เพราะเป็นการดีไซน์ตามหลักฟิสิกส์ ที่อากาศเย็นจะไหลลงสู่เบื้องล่างเสมอ นั่นจึงทำให้ ตู้เย็นทั่วไปนำช่องแช่แข็งไว้ด้านบน เพื่อสามารถกระจายความเย็นลงสู่ด้านล่าง แต่แนวคิดการใช้ตู้เย็นสไตล์ฝรั่งเศสแตกต่างออกไป เพราะในฝรั่งเศสอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ทำให้คนไม่ค่อยกังวลกับการแช่อาหารนัก แต่คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งาน หยิบจับอาหารออกจากตู้เย็นได้รวดเร็วมากกว่า จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตดีไซน์ตู้เย็นแบบ French door ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนฝรั่งเศสนั่นเอง

                   บางคนอาจจะคิดว่าตู้เย็นนี้ออกแบบมาสวนทางกับหลักการไหลของอากาศ จึงทำให้เย็นไม่ทั่วถึง แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะด้านในช่องแช่แข็งจะมีพัดลมกระจายความเย็นอยู่อีก 1 ตัว จึงกระจายความเย็นได้ทั่วถึงไม่ต่างจากตู้เย็นทั่วไป เพียงแต่การมีพัดลมเพิ่มเข้ามา จะทำให้กินไฟเพิ่มขึ้น

                  กล่าวโดยสรุป ตู้เย็น French door ก็คือตู้เย็น side by side อีกรูปแบบหนึ่ง มีคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสียในการใช้งานแทบจะเหมือนกันหมด ต่างกันตรงที่แบบ French door จะย้ายช่องแช่แข็งไปไว้ด้านล่าง ซึ่งเป็นแนวคิดการใช้ตู้เย็นสไตล์ฝรั่งเศส อันเป็นที่มาของคำว่า French นั่นเอง

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

การตกแต่งสไตล์คอทเทจ

การแตกแต่งสไตล์ Cottage เป็นการตกแต่งบ้านแบบคันทรีตะวันตก ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ Vintage ที่มีบรรยากาศดูเป็นธรรมชาติ น่าอยู่อาศัย สร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ดี แต่สไตล์ Cottage จะดูดิบกว่า เนื่องจากวัสดุที่ใช้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ และดูเรียบง่าย เช่น ใช้ไม้สนทำฝ้าเพดานหรือผนัง โดยงานจะไม่ละเอียดนัก เพื่อให้เห็นถึงพื้นผิวธรรมชาติของไม้จริงๆ

Tips ในการตกแต่งสไตล์ Cottage

  • สีสันและแพตเทิร์น
    การตกแต่งสไตล์คอทเทจ นิยมใช้สีเอิร์ทโทน เช่น สีเบจ ขาว เทา ดำ น้ำตาล และครีม โดยอาจมีการนำวอลเปเปอร์เข้ามาช่วยเสริมให้ผนังดูโดดเด่น ซึ่งมักจะใช้เป็นลายดอกไม้ หรือลายผิวไม้ เป็นส่วนใหญ่
  • ไม้คือส่วนประกอบสำคัญ
    ไม้ จัดว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการตกแต่งสไตล์นี้ ไม่ว่าจะเป็น กรอบรูปไม้ กระถางไม้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ ควรเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้เปลือย ไม่ผ่านการทาสี หรือเคลือบแลคเกอร์ เน้นผิวสัมผัสที่แท้จริงของธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้านไม่ดูปรุงแต่งมากเกินไป
  • พื้นและหน้าต่าง
    พื้น จะเน้นความเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นพื้นไม้ แต่หากเป็นไม้ที่ดูใหม่เกินไป ก็อาจจะใช้วิธีการทาสีให้ดูเก่าลงก็ได้ ส่วนเรื่องความเข้มของสีไม้ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับหน้าต่าง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกผ้าม่าน ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งหลักการเลือกใช้สี หรือลวดลายของผ้าม่านนั้น จะคำนึงถึงสีของผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นหลัก เช่น หากผนังห้องสีครีม แนะนำให้ใช้ผ้าม่านสีครีม สีน้ำตาล หรือสีเบจ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางแนวเดียวกัน
  • ของตกแต่ง
    ของตกแต่งบ้าน ก็ถือเป็นเสน่ห์ที่จะช่วยให้บ้านสไตล์คอทเทจ ดูน่ามองมากยิ่งขึ้น ซึ่งของที่นำมาประดับ ก็มักจะเป็นของที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ถูกดัดแปลงมากนัก เน้นความสบายตาหลัก เช่น พรมปูพื้นเรียบๆ เตียงเหล็กดัดที่ดูโปร่งสบาย และให้กลิ่นอายของความอบอุ่น รวมถึงดอกไม้สด ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ขาดไม่ได้ เพราะจะทำให้บ้านสไตล์คอทเทจ ดูมีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ส่วนของประดับอื่นๆ อย่างจานชาม ก็ยังสามารถเอาออกมาโชว์ได้ด้วย แนะนำให้เลือกเป็นเซตที่ดูสวยงาม โดยอาจหามุมวางเพื่อให้ดูเป็นสัดส่วน และชวนมองมากขึ้น

Cottage Style ถือเป็นการตกแต่งที่ไม่ได้มีรายละเอียดยุ่งยากมากนัก ทั้งยังให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และอบอุ่นเมื่อได้อยู่อาศัย สำหรับใครที่อยากลองปรับบ้านให้เป็นสไตล์นี้ ก็อาจจะเริ่มจากการหาของตกแต่งเล็กๆ มาลองแต่งดูก่อนก็ได้ และถ้าหากเริ่มรู้สึกหลงรักสไตล์นี้ขึ้นมาจริงๆ เมื่อไร ค่อยขยับขยายการตกแต่งให้ใหญ่ขึ้น

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

“เตาปิ้งย่าง” ใช้ภายในอาคารได้ไหม?

               เชื่อว่าคงเป็นคำถามที่หลายคนน่าจะเคยสงสัยกันว่า เตาปิ้งย่าง นั้นสามารถใช้งานภายในตัวอาคารได้หรือไม่ เพราะจากเตาย่างอาหารแบบดั้งเดิมที่ต้องก่อไฟด้วยถ่าน มักจะมีควันไฟเยอะจนไม่สามารถใช้ในบ้านได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันนี้ได้มีการทำเตาย่างออกมาอีกหลายแบบ รวมทั้งแบบแก๊ส และแบบไฟฟ้า จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แล้วเตาย่างพวกนี้ใช้ในอาคารบ้านเรือนได้หรือไม่ และต้องใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัย

เตาปิ้งย่างแบบไหนสามารถใช้ภายในอาคารได้

                 การจะดูว่าเตาปิ้งย่างนั้นๆ ใช้ภายในอาคารได้หรือไม่ ต้องดูว่ามีควันไฟหรือไม่ เพราะควันไฟจากการปิ้งย่างอาหารจะเป็นพิษต่อร่างกาย และอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย จึงไม่ควรใช้ในบ้านอย่างเด็ดขาด แต่สามารถใช้ย่างอาหารภายนอกบ้านบริเวณพื้นที่โล่งได้

ดังนั้นหากเป็นเตาย่างอาหารที่มีควันไฟ เช่น เตาย่างแบบแก๊สหรือแบบถ่าน ไม่ควรใช้ภายในอาคาร แต่ถ้าเป็นเตาย่างแบบไฟฟ้า ก็สามารถใช้ได้ เพราะเป็นระบบไร้ควัน และถูกผลิตมาให้ใช้งานภายในอาคารอยู่แล้ว

               นอกจากนี้ก็มีเตาแบบปิ้งย่างอาหารอีกประเภทหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ภายในอาคารได้ นั่นก็คือ เตาย่างไร้ควัน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเตาย่างแบบแก๊ส แต่มีการผลิตขึ้นมาให้ใช้ย่างอาหารได้โดยไม่มีควันนั่นเอง

ใช้เตาย่างภายในอาคารอย่างไรให้ปลอดภัย

              แม้ว่าเราจะเลือกใช้เตาย่างแบบไฟฟ้า หรือเตาย่างไร้ควันภายในอาคารแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% เพราะอาจเกิดอันตรายอื่นๆ จากการใช้งานผิดวิธี หรือใช้งานแบบไม่ระมัดระวังได้เหมือนกัน ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าจะต้องใช้งานอย่างไรจึงปลอดภัย

  1. เลือกใช้เตาย่างที่ได้มาตรฐาน
    หากจะใช้เตาย่างอาหารภายในอาคาร ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยต้องเลือกเตาย่างที่ได้มาตรฐาน และอย่าลืมตรวจสอบสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อด้วย ว่าไม่มีการชำรุดเสียหาย
  • ตรวจสอบสภาพก่อนใช้งาน
    ในกรณีที่เป็นเตาย่างแบบไฟฟ้า บางครั้งสายไฟก็อาจรั่วโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ดังนั้นก่อนใช้งานทุกครั้งควรตรวจสอบสายไฟให้ดี รวมถึงตรวจเช็คสภาพของเตาย่างด้วย หากพบว่ามีการชำรุดเสียหาย ไม่ควรนำมาใช้อย่างเด็ดขาด
  • อย่าใช้ขณะเตาเปียกน้ำ
    หากเพิ่งล้างทำความสะอาดเตาย่างไฟฟ้าเสร็จ อย่ารีบนำมาใช้งานในทันที ควรรอให้แห้งสนิทเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากไฟช็อตได้สูงมาก
  • อย่าใช้มือสัมผัสหน้าเตาขณะใช้งาน
    ในขณะกำลังใช้งานเตาย่าง บริเวณหน้าเตาที่เป็นตะแกรงปิ้งย่างจะมีความร้อนสูง ไม่ควรนำมือไปสัมผัสโดยตรง ควรหาที่คีบอาหารมาใช้จะดีที่สุด
  • ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ
    เมื่อใช้งานเสร็จควรถอดปลั๊กออกทุกครั้ง ห้ามเสียบทิ้งไว้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรและทำให้ไฟช็อตได้ ทั้งนี้อาจถึงขั้นทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้เลยทีเดียว

             ใครที่ต้องการปิ้งย่างอาหารภายในตัวอาคาร ควรเลือกเตาที่เหมาะสม และใช้อย่างปลอดภัยตามคำแนะนำเหล่านี้ เพราะอันตรายอาจเกิดขึ้นได้เสมอหากเราใช้งานผิดวิธี หรือไม่ระมัดระวังมากพอ

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

เลือกซื้อภาชนะใส่อาหารอย่างไร ให้ใช้กับเตาไมโครเวฟได้

                  เตาอบไมโครเวฟ นับเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีใช้งานกันเกือบทุกบ้าน เพราะใช้งานง่าย สะดวก และเหมาะกับการใช้ชีวิตเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากต้องการอุ่นอาหารในเตาไมโครเวฟ เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ามีภาชนะแบบไหนบ้างที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย ไม่ระเบิด ไม่ลุกไหม้ และไร้สารปนเปื้อนในอาหาร เพื่อจะได้เลือกซื้อภาชนะได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ภาชนะแบบไหนเข้าไมโครเวฟได้บ้าง?

  • เซรามิค / กระเบื้อง
    ภาชนะเซรามิค รวมถึงภาชนะกระเบื้อง สามารถใช้งานกับไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย แต่ต้องระวังถ้วยชามที่มีการวาดลวดลาย หรือตกแต่งด้วยการเคลือบสี เพราะหากผลิตไม่ได้มาตรฐานพอ เมื่อได้รับความร้อนสูงๆ สีอาจละลายไปปนเปื้อนกับอาหารได้ รวมถึงการตกแต่งขอบหรือวาดลวดลายด้วยสีเงิน หรือสีทอง เพราะทั้ง 2 สีนี้มีคุณสมบัติในการสะท้อนคลื่นไมโครเวฟ อาจทำให้เตาไมโครเวฟเสื่อมสภาพ หรืออายุการใช้งานสั้นลงได้
  • แก้ว
    ภาชนะแก้ว ทำมาจากทราย ซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อนสูงได้ดี จึงสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ แต่ก็ควรระวังภาชนะแก้วที่มีการตกแต่งลวดลายด้วยเช่นกัน
  • บรรจุภัณฑ์กระดาษ
    ปัจจุบันนี้ร้านอาหารหลายร้านหันมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษกันมากขึ้น อย่างกล่องกระดาษ ถ้วยกระดาษที่เคลือบแว็กซ์ และเคลือบพลาสติก สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ แต่ต้องอุ่นด้วยความร้อนต่ำเท่านั้น ส่วนกระดาษอื่นๆ เช่น ถุงกระดาษ กระดาษชานอ้อย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์รักษ์โลกต่างๆ ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ เพราะอาจเกิดประกายไฟได้ สำหรับใครที่อยากอุ่นอาหารในกล่องกระดาษ ให้พลิกกล่องหาสัญลักษณ์ Microwave Safe ก่อน
  • พลาสติก PP
    ที่จริงแล้วพลาสติกเป็นหนึ่งในลิสต์ของภาชนะที่ห้ามเอาเข้าไมโครเวฟ แต่ก็มีพลาสติกบางประเภทที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ คือ พลาสติก PP (Polypropylene) ที่มีความทนทาน เหนียว ยืดหยุ่นได้ และทนแรงกระแทกได้ดี แต่ก่อนอื่น ก็อย่าลืมพลิกหาสัญลักษณ์ระบุประเภทของพลาสติก หรือจะมองหาสัญลักษณ์ Microwavable หรือ Microwave Safe ก็ได้  

                      สรุปแล้ว ภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้โดยไม่เป็นอันตราย ได้แก่ ภาชนะประเภทแก้ว, เซรามิค, กระเบื้อง, พลาสติก PP รวมถึงบรรจุภัณฑ์กระดาษบางประเภท ส่วนภาชนะที่ห้ามนำเข้าไมโครเวฟโดยเด็ดขาด คือ ภาชนะและผลิตภัณฑ์พลาสติกทุกชนิด ยกเว้น PP, โลหะ, อลูมิเนียมฟอยล์, กล่องโฟม และเมลามีน นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัย ก่อนใช้งานไมโครเวฟ อย่าลืมพลิกดูบรรจุภัณฑ์ และมองหาสัญลักษณ์ Microwave Safe หรือ Microwavable ก่อน

                      สำหรับเจ้าของร้านอาหาร หากใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟได้เลย อย่างกล่องพลาสติกประเภท PP ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการลูกค้าได้ เพราะไม่ต้องคอยสับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ก่อนนำอาหารเข้าอุ่นในไมโครเวฟนั่นเอง

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

‘เก้าอี้เกมมิ่ง’ เลือกยังไงให้ถูกใจเกมเมอร์

                  คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจว่า เก้าอี้สำหรับใช้นั่งเล่นเกมโดยเฉพาะนั้นมันแตกต่างจากเก้าอี้ธรรมดายังไง แต่สำหรับเกมเมอร์แล้ว เก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักเล่นเกมโดยเฉพาะ มันดีกว่าจริงๆ

เก้าอี้เกมมิ่ง ดียังไง?

                  เก้าอี้เกมมิ่งในภาพจำของใครหลายคน มักจะเป็นเก้าอี้ที่มีสีสันฉูดฉาด และดีไซน์แปลกตา ซึ่งภายใต้ดีไซน์ที่แตกต่างนั้น มันยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานนั่งได้สบายที่สุด แม้จะต้องนั่งนานๆ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า คนเล่นเกมนั้น มักจะเล่นต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมง หากต้องนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่ดีพอ ก็คงต้องเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิศแน่ๆ เก้าอี้เกมมิ่งจึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

               เก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกับเบาะรถแข่ง ซึ่งจะมีการซัพพอร์ตที่บริเวณหลัง สะโพก และลำคอ ช่วยลดแรงกดทับ ให้ร่างกายไม่ต้องแบกรับน้ำหนักตัวเต็มๆ ป้องกันกระดูกสันหลังบิดเบี้ยวจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เก้าอี้เกมมิ่งนั่งสบายกว่าเก้าอี้ทั่วไป แถมบางรุ่นยังปรับเอนนอนได้อีกด้วย

หลักในการเลือกซื้อเก้าอี้เกมมิ่งมาใช้งาน

  • ดูจากเบาะรองนั่งของเก้าอี้
    เบาะรองนั่งของเก้าอี้เกมมิ่งแต่ละยี่ห้อ จะทำมาจากวัสดุต่างชนิดกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฟองน้ำ หรือเมมโมรีโฟม ควรเลือกเบาะที่นั่งสบาย ไม่นุ่มเกินไป รับน้ำหนักได้ดี และสามารถใช้งานได้นาน เพราะในแต่ละวันจะต้องนั่งนานหลายชั่วโมง หากเบาะทำจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ อาจเสื่อมสภาพได้ง่าย ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

  • ดูจากวัสดุหุ้มเก้าอี้
    วัสดุหุ้มเก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะทำมาจากหนังเทียมอย่าง PU หรือ PVC ซึ่งมีความสวยงาม หรูหราคล้ายหนังแท้ ทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มสบาย และทำความสะอาดง่ายเวลาเปื้อน นอกจากนี้ก็ยังมีเก้าอี้เกมมิ่งที่ทำจากผ้าตาข่าย ซึ่งจะระบายอากาศได้ดีกว่า และไม่กักเก็บความร้อน ใครที่เป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย แนะนำให้เลือกเป็นเก้าอี้แบบตาข่ายก็จะตอบโจทย์มากกว่า

  • ดูจากดีไซน์ของเก้าอี้
    เก้าอี้เกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีสีสันฉูดฉาด เพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศ และเพิ่มอรรถรสให้การเล่นเกมได้ นอกจากนี้ก็ยังทำให้ดูโดดเด่นบนหน้าจอ หากมีการสตรีมเกมสดๆ อีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบสีสัน ก็อาจเลือกเป็นเก้าอี้แบบเรียบๆ ได้เช่นกัน

              เกมเมอร์ทั้งหลาย อย่าลืมนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกซื้อเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นเกมดูนะ จะได้มีเก้าอี้ดีๆ ที่ช่วยให้เล่นเกมได้สนุกขึ้น แถมยังเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

ติดตามบทความ เคล็ดลับในบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ตกแต่งบ้านแนวใหม่ สไตล์ Modern Artisan

               การแต่งบ้าน Modern Artisan คือการตกแต่งในสไตล์ทันสมัย เรียบหรู แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ จากของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่มีดีเทลละเอียดปราณีต และจากเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความแข็งแรง และสวยงาม ทำให้บ้านดูอบอุ่น หรือแม้แต่การตกแต่งบ้านด้วยงานฝีมือ งานหัตถกรรม งานแฮนเมดทั้งหลาย จึงทำให้หลายคนหลงใหลในการตกแต่งสไตล์นี้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยู่ท่ามกลางความฉาบฉวยจากเทคโนโลยี วันนี้เราจึงได้รวบรวมไอเดียแต่งบ้าน Modern Artisan มาฝาก จะเป็นยังไงบ้าง ลองมาดูกันเลย

ห้องนั่งเล่น
นับเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นทั้งห้องรับแขก และห้องพักผ่อนในวันว่าง หมอนอิงกับผ้าห่มผืนนุ่มจึงเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากเรื่องของประโยชน์ใช้สอยแล้ว ยังเป็นของตกแต่งบ้านที่น่าสนใจได้ด้วย เทคนิคคือ หากไม่สามารถหาหมอนอิงและผ้าห่มที่ถักทอจากวัสดุท้องถิ่นได้ แค่เลือกใช้ผ้าพิมพ์ลายที่มีสีสันโดดเด่น อาจเลือกเป็นลายกราฟฟิกที่ให้อารมณ์แบบชนเผ่า หรือลวดลายธรรมชาติที่ให้ทั้งความสดใสและสดชื่น รับรองว่าต้องสะดุดตาผู้มาเยือนอย่างแน่นอน

ห้องทำงาน
ห้องทำงานไม่จำเป็นต้องเคร่งขรึมเสมอไป ควรเปิดรับแสงธรรมชาติด้วยกระจกเต็มบาน แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัววันไหน ก็แค่รูดผ้าม่านสีน้ำตาลครีมที่มี texture เหมือนผ้าทอมาปิด โทนสีโดยรวมของห้องทำงานสามารถคุมโทนให้เป็นสีและลวดลายเลียนแบบธรรมชาติได้ ตั้งแต่โทนสีผนัง สีพรม เฟอร์นิเจอร์ลายไม้ และอุปกรณ์มาจากงานจักสาน ที่ช่วยลดความแข็งกระด้างของโทนสีขรึมได้เป็นอย่างดี

ห้องนอน
ห้องแห่งการพักผ่อนอย่างห้องนอน สามารถเลือกใช้เตียงนอนไม้โทนสีอบอุ่น ที่เข้ากันกับพื้นไม้ได้ แต่หากชอบความเรียบ หรือกลัวเชย ก็ใช้งานหัตถกรรมง่ายๆ ด้วยกระถางต้นไม้แบบสาน กับต้นไม้ฟอกอากาศฟอร์มสวยๆ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมอโรม่า เพิ่มบรรยากาศการพักผ่อนแสนสบาย เมื่อเอนกายลงบนหมอนอิงลวดลายกราฟฟิกสไตล์ชนเผ่า

ผ้าม่าน/พรม
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ของการแต่งบ้าน Modern Artisan คือผ้าม่านและพรม ควรเน้นสีโทนสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโปร่งโล่ง อย่างม่านโปร่งที่ให้แสงธรรมชาติลอดผ่านมาได้ โดยไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัวมากนัก นอกจากเนื้อผ้าที่ถักทออย่างเป็นธรรมชาติบนผ้าม่านแล้ว ผิวสัมผัสของพรมปูพื้นที่อ่อนนุ่ม ก็ควรเลือกเป็นงานที่ถักทออย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน

             สุดท้าย ที่จะลืมไม่ได้เลยคือเรื่องของการจัดแสง เน้นโคมไฟสไตล์โมเดิร์น แต่แฝงความพิเศษไว้ด้วยดีเทลลายธรรมชาติ เช่น ลายหินอ่อน นอกจากจะให้แสงที่สวยละมุนแล้ว ดีไซน์ที่เน้นเส้นสายโค้งมนแบบนี้ ยังให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่าเส้นตรง หรือโคมไฟแบบมีเหลี่ยมมุมอีกด้วย

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

แนวคิดการตกแต่งบ้านแบบ “เปิด”

แนวคิดการตกแต่งบ้านแบบ “เปิด”

                  แนวคิดการตกแต่งบ้านของคนส่วนใหญ่ จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการตกแต่งภายใน และการสร้างห้องต่างๆ ด้วยวิธีก่อผนังมาปิด เพื่อแบ่งอาณาเขตของห้อง หรือถ้าเป็นบ้านทาวเฮาส์ที่มีการทำห้องสำเร็จรูปไว้แล้ว ก็อาจจะใช้ม่านหรือฉากกั้น  เพื่อแสดงอาณาเขตของพื้นที่ใช้งาน  ซึ่งทั้งหมดตรงกันข้ามกับแนวคิดแบบ เปิด ที่กำลังจะพูดถึงอย่างสิ้นเชิง  

                 การเปิด คือการเอาผนังทั้งหมดของบ้านออก เพื่อให้ส่วนของบ้านดูกว้างขึ้น และยังได้กำไรจากทัศนียภาพภายนอกที่เชื่อมต่อมาถึงภายใน จนกลายเป็นว่าอาณาเขตของบ้านไม่มีที่สิ้นสุด เรียกว่าเป็นแนวคิดที่ไร้กรอบ สร้างสรรค์ และมีจินตนาการที่ไม่รู้จบ

                 จะว่าไปแล้วการตกแต่งบ้านด้วยแนวคิดแบบเปิดไม่ใช่เรื่องง่าย และเราจะต้องเป็นคนที่มีความรอบคอบมากกว่าคนอื่นๆ ด้วย เพราะการออกแบบบ้านในลักษณะนี้  คือการวางทุกอย่างเอาไว้บนระนาบเดียวกัน และหากมองภาพรวมของบ้าน จะเห็นงานตกแต่งทั้งหมดเป็นงานชิ้นเดียวกัน ถ้าเราพลาดแม้เพียงจุดเดียว ก็อาจทำให้ภาพโดยรวมเสียหายไปหมด จนไม่เหลือความงามเลย ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า มีหลักอะไรบ้างหากเราต้องการจะแต่งบ้านด้วยแนวคิดแบบเปิด

  1. โทนสี 
    บ้านแบบเปิด จะมีอาณาเขตของห้องเป็นตัวแบ่งพื้นที่ ฉะนั้นเราต้องมีความรู้มากพอในการเลือกใช้สีที่เหมาะสม โดยเลือกใช้สีที่สามารถบ่งบอกได้ว่า พื้นที่ตรงไหนคือโซนของห้องครัว ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น เพราะบ้านแบบนี้จะไม่มีกำแพง ฉะนั้นการจัดสรรพื้นที่ภายในอย่างชาญฉลาด จะเป็นการสร้างอาณาเขตจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เราอาจเลือกใช้สีผนังที่ต่างกันในการแบ่งพื้นที่ของห้อง ใช้เฟอร์นิเจอร์เพื่อบอกอาณาเขตที่ต้องการ หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่ให้สัมผัสที่ต่างกัน ก็จะทำให้เรารู้ได้ว่า พื้นที่ตรงนี้คือส่วนของห้องนั่งเล่น ตรงนี้คือส่วนของห้องครัว เป็นต้น
  • การตกแต่ง
    การตกแต่งบ้านแบบเปิด อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ไร้จินตนาการ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในธีมเดียวกัน จะช่วยทำให้โทนของห้องเป็นไปในทิศทางที่เราต้องการได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์แนวเมทัล สีและความแวววาวของโลหะ คือสิ่งที่สื่อถึงความไฮเทค แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์แนวเรโท พื้นที่บ้านก็จะเต็มไปด้วยสีสันของวันวานที่สดใส
  • หน้าต่างและประตู
    หน้าต่างและประตูอาจไม่จำเป็นสำหรับบ้านแบบเปิด เพราะเราสามารถมองเห็นภายนอกได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว สิ่งที่เหมาะสมจะใช้กับบ้านแบบนี้ เห็นจะมีเพียงผนังกระจกเท่านั้น และเรายังได้ประโยชน์จากการรับแสงธรรมชาติโดยเฉพาะในเวลากลางวัน ที่แทบจะไม่ต้องเปิดไฟกันเลยทีเดียว แต่ผนังกระจกก็อาจจะทำให้ร้อนได้เหมือนกัน ฉะนั้นการเลือกใช้ม่านกันแสง จึงอาจจำเป็นสำหรับบ้านแบบนี้

              ปัจจุบันการตกแต่งบ้านเน้นที่ความโปร่ง โล่ง สบายกันมากขึ้น ใครสนใจการแนวคิดการแต่งบ้านแบบเปิด ก็ลองเอาไปทำตามกันดูได้นะ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ไอเดียแต่งบ้านให้ดูโรแมนติกแบบเรียบง่าย

ไอเดียแต่งบ้านให้ดูโรแมนติกแบบเรียบง่าย

               ใครชื่นชอบการตกแต่งบ้านให้ดูโรแมนติก แต่ก็กลัวว่าถ้าแต่งเยอะจะหวานเลี่ยนเกินไป วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการแต่งบ้านสไตล์โรแมนติกที่มาพร้อมกับความเรียบง่าย ไม่จำเป็นต้องมีแต่สีชมพู ไม่จำเป็นต้องเยอะ แค่เลือกใช้สีอ่อน รวมไปถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างบรรยากาศโรแมนติก ให้ดูผ่อนคลายและสบายได้

เก้าอี้หวาย
เส้นสายโค้งมนของเก้าอี้หวายจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับมุมบ้านได้ เพราะเฟอร์นิเจอร์หวายจะให้ความรู้สึกอ่อนโยน และผ่อนคลาย ควรเลือกเฉดสีโรแมนติก อย่างสีขาวเมื่อนำมารวมกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ จะขับให้สวยขึ้น อาจเพิ่มเติมด้วยเบาะลายดอก เสริมด้วยกระถางต้นไม้เล็กๆ ผสานเข้ากับสีเขียวของธรรมชาติจากต้นไม้ในบ้าน ก็สามารถช่วยสร้างความสดชื่นในทุกๆ วันได้อย่างง่ายๆ แล้ว

ผ้าม่านลูกไม้
การเลือกผ้าสวยๆ มาตกแต่ง ก็สามารถทำให้บ้านสวยขึ้นได้เช่นกัน เหมือนกับการเลือกผ้าม่านถูกสไตล์ ก็จะทำให้บรรยากาศของบ้านดูโรแมนติกได้ เช่น เลือกผ้าม่านสีขาวลายลูกไม้ มาติดไว้บริเวณหน้าต่างของห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับตกแต่งผนังด้วยกรอบรูปสื่อถึงความรัก แม้โต๊ะกินข้าวจะเป็นโต๊ะไม้แบบเรียบง่าย ก็ให้อารมณ์โรแมนติกได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ผนังสีอ่อน
การออกแบบห้องให้มีผนังสีอ่อน นอกจากทำให้ห้องดูผ่อนคลายไม่น่าเบื่อแล้ว ยังสื่อถึงอารมณ์โรแมนติกได้เหมือนกัน ยิ่งมีแสงสว่างส่องเข้ามาอย่างทั่วถึง จะยิ่งช่วยทำให้ภาพรวมของห้องดูไม่น่าอึดอัดและสบายขึ้น ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการวางพรมผืนใหญ่คุมบรรยากาศของห้อง ให้ชวนอบอุ่นน่าสัมผัส ลองนำผ้าลายปักหรือลายลูกไม้มาวางลงบนเฟอร์นิเจอร์เรียบๆ ก็จะยิ่งช่วยให้ห้องดูหวานขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดของการตกแต่งภายในที่เยอะเลย

พร็อพสร้างสไตล์
ลองหยิบของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย มาเติมเต็มบรรยากาศของห้องให้หวานฟรุ้งฟริ้ง ก็จะช่วยให้ดูโรแมนติกขึ้นได้ เริ่มจากภาชนะแก้วใสทรงสวยใส่ดอกไม้ วางคู่กับชุดถ้วยกาแฟ และผ้าพิมพ์ลวดลายดอกไม้ แค่นี้ก็สามารถเพิ่มสีสันสดใส ผสานไปกับอารมณ์โรแมนติกได้ไม่ยากแล้ว

กระจกเงา
ผิวโลหะของกระจกเงา มีส่วนช่วยเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาๆ ให้ดูโรแมนติกได้ การเลือกกระจกเงามาแขวนติดผนัง ยังสามารถเคลื่อนย้ายสะดวกในกรณีที่เราเบื่ออีกด้วย

ใครที่หลงใหลสไตล์การแต่งบ้านที่ให้อารมณ์โรแมนติกและผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน ก็อย่าลืมนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันนะ

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

เทคนิคตกแต่งห้องสตูดิโอเล็กๆ ให้สุดว้าว

                รูปแบบการใช้ชีวิตของคนทำงานในเมืองใหญ่ทุกวันนี้ คือการพักอาศัยในที่พักใกล้ออฟฟิศกันเป็นหลัก ซึ่งที่พักที่ว่านี้ก็อาจไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านหลังใหญ่ แต่เน้นให้เดินทางไปทำงานได้สะดวกมากกว่า และเนื่องจากความสะดวกสบายมักจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว หลายคนจึงเลือกที่พักเป็นคอนโดขนาดเล็ก เพื่อเป็นการประหยัดเงิน วันนี้เราเลยจะมาบอกเทคนิคการตกแต่งคอนโดที่เป็นห้องแคบๆ อย่างห้องสตูดิโอ ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยสุดว้าว โดยไม่รู้สึกว่าพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด จะมีวิธีไหนบ้าง ลองมาดูกันเลย

  1. แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน
    ออกแบบห้องแคบๆ ให้น่าสบายขึ้นด้วยการใช้สีที่ดูสงบ เรียบง่าย อย่างผนังสีไม้ และผ้าม่านสีเทาที่ยาวจรดพื้น นอกจากนี้ควรแบ่งแยกการใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และอาจเพิ่มเสน่ห์ด้วยรูปภาพโทนสีขาวดำ เพื่อความน่าสนใจยิ่งขึ้น
  • ตกแต่งห้องอย่างมีสไตล์
    สร้างความโดดเด่นให้กับผนัง ด้วยการติดวอลเปเปอร์ลวดลายต่างๆ อย่างลายอิฐบล็อก ที่ทำให้คอนโดดูทันสมัยและไม่จืดชืด สะท้อนรสนิยมเนี้ยบเท่ ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่าง ชั้นไม้ติดผนัง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่แทนการใช้ตู้ใบโตๆ หากระถางต้นไม้มาตั้งอีกซักต้น ก็ช่วยเพิ่มความสดใสได้เป็นอย่างดี
  • เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่น
    สร้างมุมนั่งเล่นแบบง่ายๆ ริมหน้าต่าง ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้มากกว่าหนึ่งหน้าที่ เช่น เดย์เบดนั่งสบาย ที่ด้านล่างออกแบบให้เป็นลิ้นชักเก็บของได้ด้วย อาจเพิ่มรายละเอียดให้ห้องน่าสนใจขึ้นด้วยผ้าม่านและหมอนอิงสีสดใส ที่ทำให้ห้องสตูดิโอดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • แคบแต่ไม่อึดอัด
    แม้ห้องสตูดิโออาจจะแคบ แต่เราก็สามารถสร้างความโปร่งสบายให้ห้องได้ ด้วยการตกแต่งผนังให้เป็นโทนสีอ่อน แล้วเติมเสน่ห์ด้วยโคมไฟแขวน บวกกับโซฟาสีเรียบๆ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งโต๊ะทำงาน และใช้นั่งรับประทานอาหารร่วมกัน

  • จัดระเบียบข้าวของ
    ยิ่งห้องมีขนาดเล็ก ยิ่งไม่ควรปล่อยให้รก ควรจัดเก็บข้าวของและแยกประเภทการใช้งานให้เป็นระเบียบ ใช้ชั้นวางของแบบชิดผนังขนาดพอดีกับพื้นที่ อาจเพิ่มเติมด้วยการหาตะกร้าหวายมาไว้ใช้เก็บของ เพราะนอกจากจะช่วยให้คอนโดดูสะอาดเป็นระเบียบแล้ว ยังทำให้ห้องดูเป็นสไตล์หวานๆ ด้วย

               ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียการตกแต่งห้องสตูดิโอ ที่จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้ห้องขนาดเล็กของใครหลายคนดูน่ารักน่าพักผ่อน และช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น จบปัญหาห้องเล็ก น่าอึดอัด แถมยังดูดีมีสไตล์มากๆ อีกด้วย

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
เคล็ดลับในบ้าน

ไอเดียแต่งห้องทำงานให้ดูผ่อนคลาย สไตล์ Work & Relax

                   ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าใครที่ต้อง Work From Home นานๆ เชื่อว่าคงมีความคิดอยากจะหาไอเดียแต่งห้องทำงานให้สวยๆ ดูแล้วผ่อนคลาย สบายตาสบายใจ แถมยังได้พื้นที่สำหรับทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กันด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมไอเดียแต่งห้องทำงาน ที่ช่วยให้สามารถ Work & Relax ไปด้วยกันได้ มาดูกันดีกว่าว่ามีไอเดียอะไรบ้าง

  1. เน้นความคลีน &  มินิมอล
    สำหรับใครที่ชอบความสะอาด สบายตา การแต่งห้องแบบคลีนๆ เน้นความมินิมอล ดูจะเหมาะที่สุด เคล็ดลับคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงาน เช่น ใช้โต๊ะทำงานที่เป็นเนื้อไม้ สีขาว หรือแบบที่มีขาโปร่งๆ ไม่ทึบ จัดวางคู่กับโคมไฟทรงยาว ที่สำคัญคือไม่ควรใช้โต๊ะทรงหนาหรือตัน แต่ถ้าอยากได้ที่เก็บของ ก็ให้ใช้เป็นชั้นวางโปร่งๆ แทน ก็จะช่วยให้ดูสบายตาขึ้น
  • เติมสีเขียวให้กับพื้นที่
    ในห้องทำงานที่คนเรามักจะเครียดกับงานอยู่แล้ว ไม่ควรแต่งห้องให้มีบรรยากาศเครียดไปอีก อย่างการตกแต่งด้วยสีเทา หรือสีออกทึมๆ ทั้งหมด หากเป็นคนไม่ชอบสีสัน แนะนำให้ตกแต่งโดยการเพิ่มสีเขียวจากธรรมชาติเข้าไป นั่นก็คือ ให้หาไม้ประดับสีเขียวขนาดเล็ก เอามาวางไว้ตามมุมต่างๆ ของห้อง เพียงเท่านี้จากห้องทำงานที่เคยดูเคร่งเครียด ก็จะเปลี่ยนเป็นสบายขึ้น และสีเขียวยังเป็นสีที่ช่วยพักสายตาให้เราได้ด้วย เหนื่อยเมื่อไหร่ก็มองต้นไม้ ได้ความสดชื่นขึ้นแน่นอน
  • เลือกมุมทำงานที่มีแสงเข้า
    ในความเป็นจริงแล้วห้องทึบๆ ไม่ควรใช้เป็นห้องทำงาน แต่เราสามารถเปลี่ยนให้ห้องสว่างและโปร่งขึ้นได้ ด้วยการแต่งมุมทำงานไว้ใกล้ๆ หน้าต่าง ให้มีแสงสาดเข้ามาและมองเห็นวิวด้านหน้า จะช่วยให้พื้นที่ดูโล่งขึ้น อีกทั้งถ้าเราเลือกใช้พื้นผนัง โต๊ะ และของตกแต่งสีขาวด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้บรรยากาศดูสว่างขึ้น
  • จัดมุมทำงานไว้ในห้องนั่งเล่น
    ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะจัดมุมทำงานไว้ในห้องนอน แต่เรายังสามารถตกแต่งมุมทำงานไว้ในห้องนั่งเล่นได้ด้วย โดยแต่งให้ทั้งโซนออกมาเป็นสไตล์เดียวกัน นอกจากเราจะได้พื้นที่กว้างขึ้นแล้ว บรรยากาศของมุมทำงานก็จะดูสดใสมากขึ้นด้วย

                  นอกเหนือจากที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้ว สำหรับสายสตรีมมิ่ง หรือเกมเมอร์ ที่รักการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ก็ยังสามารถแต่งห้องทำงาน ให้เป็นมุมเล่นเกมในเวลาเดียวกันได้ด้วย โดยเลือกใช้อุปกรณ์ในห้อง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ คอมพิวเตอร์ ไฟ และเก้าอี้นั่งที่รองรับสรีระได้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

ติดตามบทความ ไอเดียแต่งบ้าน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

FB : คนรักบ้าน

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

ไอเท็มแต่งห้องนอนสไตล์”มินิมอล”

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใครหลายคนอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น ก็เลยมีเวลาสำหรับคิดหาวิธีการแต่งบ้านแต่งห้องกันใหม่ ให้สวยมินิมอลดูดีกว่าแต่ก่อน สำหรับใครที่เคยมีห้องนอนที่รกแสนรก จะหาของทีก็แสนยาก

กำลังคิดอยากจะปรับเปลี่ยนใหม่ให้ดูโล่ง โปร่ง สบายตาขึ้น สมกับเป็นห้องแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง ขอแนะนำการแต่งห้องในสไตล์ มินิมอล

การตกแต่งแบบ มินิมอล เป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย ใช้สีน้อยสะอาดตา และใช้ของไม่มากชิ้นแต่ประโยชน์เยอะ ซึ่งหากต้องการตกแต่งห้องเป็นสไตล์นี้ จะต้องมีไอเท็มอะไรบ้าง วันนี้เรามีตัวอย่างมาแนะนำค่ะ

ราวแขวนผ้า

การใช้ราวแขวนเสื้อผ้าแบบโล่งๆ แทนตู้ทึบ จะช่วยทำให้ห้องดูโปร่งสบายไม่น่าอึดอัด เหมาะเอาไว้แขวนเสื้อผ้าที่เราใส่บ่อยๆ หรือเตรียมไว้ใส่ในวันถัดไป ถือเป็นไอเท็มธรรมดาๆ ที่ช่วยเติมเต็มให้ห้องดูมีมินิมอลขึ้นมากเลยล่ะค่ะ

ตะกร้าสาน

ใครที่ตกแต่งห้องสไตล์มินิมอล จะขาดไอเท็มนี้ไปไม่ได้เลย เพราะนอกจากตะกร้าสานจะมีสีเอิร์ธโทนแบบมินิมอลแล้ว
ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งใส่ผ้า ใส่หนังสือ และใส่ของกระจุกกระจิกอีกสารพัด แถมความสวยเก๋ของมันก็ยังใช้เป็นของตกแต่งไปในตัวได้อีกด้วย

ชั้นวางของ

เป็นไอเท็มที่นอกจากจะใช้เป็นของตกแต่งห้องแล้ว ยังช่วยเรื่องการจัดระเบียบได้ดีมากๆ ใครที่ของเยอะและอยากจะหาที่วางให้เป็นระเบียบแถมยังดูสวยเรียบร้อย ก็ลองหาชั้นวางของมาใช้ดูเผื่อจะมินิมอลขึ้น

พรม

สำหรับใครที่คิดว่าห้องยังดูโล่งหรือว่างมากเกินไป การเลือกพรมสีเรียบๆ มาช่วยในการตกแต่ง ก็นับเป็นไอเดียมินิมอลที่ดีมากอีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้ห้องดูมีมิติและน่าสนใจขึ้น
สำหรับพรมที่จะนำมาใช้ในห้องนอนนั้น แนะนำให้เลือกเป็นพรมที่ไม่กักฝุ่น และควรทำความสะอาดบ่อยๆ นะคะ เพื่อป้องกันภูมิแพ้ค่ะ

ผ้าม่าน

สำหรับใครที่ต้องการเสริมความละมุนให้ห้องมากขึ้น ลองเลือกเพิ่มไอเท็มผ้าม่านบางเบาสีเอิร์ธโทนอย่าง ขาว ครีม หรือน้ำตาลอ่อนดูสิคะ อาจจะให้ความมินิมอลแบบที่มีความหนาสักนิด เพื่อให้ช่วยกันแสงแดดด้วยก็ได้ค่ะ

กระจก

ใครที่รู้สึกว่าห้องของตัวเองแคบ ลองหากระจกสักบานมาเป็นตัวช่วยให้มินิมอลได้ค่ะ นอกจากเอาไว้ใช้แต่งตัวได้แล้ว กระจกยังหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้น และลดความอึดอัดได้ดีเลยด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับไอเท็มทั้งหมดที่ได้แนะนำไปในวันนี้ ถูกใจไอเท็มไหนก็ลองหามาตกแต่งห้องนอนกันดูนะคะ

ติดตามบทความไอเดียแต่งบ้านได้ทุกสัปดาห์ได้ที่ baaninspire.com

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

“ตกแต่งห้องนอน”ดูใกล้ชิดธรรมชาติให้สวยงามและน่าอยู่

วันนี้เรามีเทคนิคในการจัดตกแต่งห้องนอน ให้อารมณ์เหมือนอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น แม้ว่าบ้านและห้องนอนของเราจะอยู่ในเขตเมืองก็ตาม

การจัดตกแต่งห้องนอนแนวธรรมชาติ จะช่วยให้เราได้รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้อยู่ในห้องนอน โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปหาแหล่งธรรมชาติภายนอกที่ไหนเลย มาดูกันว่าทำอย่างไร

การจัดตกแต่งห้องนอนแนวใกล้ชิดธรรมชาติ มีเทคนิควิธีการอย่างไรกันบ้าง

1. การจัดตกแต่งห้องนอนของเราให้ดูดิบๆได้ด้วยผนังปูนเปลือยปล่อยแบบไม่ต้องฉาบ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น จากนั้นก็หาต้นไม้

ดอกไม้มาประดับตกแต่งเพิ่มเติมตามมุมต่างๆที่เหมาะสมภายในห้องนอนจะช่วยเพิ่มความสดใส สดชื่นให้กับห้องนอนของเราได้ ในสไตล์แบบป่าดิบ สำหรับคนที่ชอบสไตล์แบบเดินป่า อนุรักษ์ธรรมชาติ น่าจะถูกใจคุณมากที่สุด

2. การตกแต่งห้องนอนโดยเน้นโทนสีแบบเรียบๆ เช่น โทนสีเขียวเข้ม หรือจะโทนสีฟ้า แบบทาให้ทั่วห้อง แล้วเราก็จัดหาเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งตามโทนสีที่เลือก หากเป็นสีเขียว ก็จัดตกแต่งด้วยต้นไม้ดอก ไม้ประดับ หรือจะเลือกเป็นแบบ รูปภาพต้นไม้ วิวธรรมชาติในป่า ภูเขา

ส่วนถ้าเป็นสีฟ้า ก็ควรจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งด้วยแนวทะเลให้เข้ากับโทนสีฟ้า เช่น รูปวิวทะเล ชายหาด ที่ดูสวยสบายตา ต้นไม้แนวที่อยู่ใกล้ชิดกับชายทะเล

3. สำหรับคนที่คิดว่าจะไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรักษาต้นไม้ หรือว่าไม่ชอบความสกปรกเวลาที่เรารดน้ำต้นไม้ภายในห้องนอน ซึ่งจะทำให้ห้องนอนดูไม่สะอาดสวยงาม

เราก็อาจจะหาซื้อพวกต้นไม้ ดอกไม้ หรือว่าจะเป็นประเภทต้นไม้ปลอมแบบเลื้อยๆ มาประดับตกแต่งห้องนอนของแทนก็ได้ค่ะ

4. ภายในห้องนอน ถ้าเราสามารถหาพื้นที่ที่อยู่ติดมุมและมีหน้าต่าง จะช่วยให้มีแสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนได้ดีมากขึ้นได้  

ทำให้เวลาที่อยู่ในห้องนอน จะรู้สึกโล่งโปร่งสบายใจไม่รู้สึกถึงความอึดอัด และยังช่วยทำให้ห้องนอนของคุณ ดูกว้างขวางโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วย

5. การจัดตกแต่งห้องนอนให้ดูเป็นธรรมชาติที่ดีอีกวิธีก็คือการติดวอลเปเปอร์ลายต้นไม้หรือจะเป็นป่าเขา มีลวดลายธรรมชาติ อะไรก็ได้ที่คุณชอบ

แต่ก็ต้องพิจารณาให้ดีๆด้วยว่าเข้ากันได้กับโทนสีของห้องนอนของเราได้รึป่าว ซึ่งจะช่วยให้ห้องนอนของเรา ยิ่งใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก เพียงเท่านี้เราก็สามารถเนรมิตห้องนอนของคุณให้ดูสวยงาม สดใสเป็นธรรมชาติมากขึ้นได้ ด้วยเทคนิคการจัดตกแต่งบ้านแบบง่าย ทำได้ไม่ยากเลย

ฝากติดตามบทความไอเดียแต่งบ้านดีๆได้ที่ baaninspire.com

Categories
ไอเดียแต่งบ้าน

เทคนิคการจัดห้องนอนเล็กๆรกๆให้กลับมาสวยงามและน่าอยู่

ไอเดียแต่งห้องเล็กๆ

วันนี้เราขอนำเทคนิคแบบง่ายๆที่จะสามารถเนรมิตห้องนอนเล็กๆ และรกไปด้วยของเยอะแยะมากมายของเรา ให้กลับมาเป็นห้องนอนที่น่านอน เป็นระเบียบสวยงามน่าดูยิ่งขึ้นมาฝากทุกคนกันค่ะ

ห้องนอนของคุณบางคนพอเปิดเข้าไป อาจจะต้องพบกับข้าวของมากมายก่ายกองที่วางระเกะระกะเต็มห้องนอนไปหมด จนไม่รู้ว่านี่ห้องนอนหรือว่าห้องเก็บของเก่ากันแน่ วันนี้เรามาจัดห้องนอนของเราให้น่านอนน่าอยู่ยิ่งขึ้นกันเถอะค่ะด้วยเทคนิคต่างๆที่เราจะนำมาฝากกันค่ะ ว่าแล้วเรามาดูกันค่ะว่ามีเทคนิคอย่างไรกันบ้าง

ไอเดียแต่งห้องนอนเล็กๆ

-การใช้พื้นที่ built-in ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ห้องนอนขนาดเล็กควรติดตั้งพื้นที่ built-in เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเอาไว้เก็บของมากมายต่างๆ ของกระจุกกระจิกเข้าไปไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น และยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้สอยที่ดีมากอีกด้วย และถ้าในห้องติดตั้งไว้แล้ว ก็ให้พยายามใช้พื้นที่ส่วนนี้เก็บของให้เป็นระเบียบ และใช้พื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้จะช่วยไม่ให้ห้องนอนของเราดูรก และเป็นระเบียบสวยงามมากยิ่งขึ้น

ไอเดียแต่งห้องนอนเล็กๆ

-ชั้นวางของแบบเก๋ๆน่ารักๆ ช่วยเก็บของไม่ให้รก

หาชั้นวางของแบบเก๋ๆน่ารักๆ สักอัน มาวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้องนอน หรือว่าที่หัวเตียง หัวมุมห้อง เพื่อเอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆที่กระจัดกระจาย ให้รวมอยู่บนชั้นอย่างเป็นระเบียบและสวยงามน่ามองมากยิ่งขึ้น

-เพิ่มเก้าอี้เก็บของ เพื่อช่วยในการจัดห้อง

หาเก้าอี้ที่สามารถใช้เป็นที่เก็บของได้ด้วยไว้สักตัว เก้าอี้แบบที่มีฝาเปิดเก็บของได้ จะช่วยเก็บของไม่ให้ดูรก และยังใช้เป็นเก้าอี้นั่งพักผ่อน หรือว่าทำงานได้ด้วย ได้ประโยชน์ถึงสองอย่างในเวลาเดียวกัน สมัยนี้มีวางขายเยอะแยะมากมายหลากหลายรูปแบบ หาซื้อได้ทั่วไปทั้งห้างสรรพสินค้า และร้านค้าออนไลน์

ไอเดียแต่งห้องนอนเล็กๆ

-การสร้างสรรค์ที่สำหรับเก็บของใต้เตียง

สำหรับห้องที่มีพื้นที่ใต้เตียงยังว่างอยู่ ให้หาชั้นหรือว่ากล่องเก็บของที่สามารถเก็บไว้ใต้เตียงได้ มาไว้เก็บของใต้เตียง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องนอนของเราให้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

-การเพิ่มเตียงสองชั้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

ถ้าเป็นไปได้ สำหรับใครที่อยากเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนด้วยการใช้เตียงสองชั้น ชั้นบนใช้สำหรับการนอน ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมที่เราต้องทำเป็นประจำ เช่น การทำงาน การอ่านหนังสือ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใช้สอยในห้องนอนเราได้มากขึ้นเลยหล่ะ

ไอเดียแต่งห้องนอนเล็กๆ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคแบบง่ายๆ ที่เราสามารถนำไปปรับใช้และปรับปรุงห้องนอนของเราให้ดูดี น่านอน เป็นระเบียบสวยงามมากขึ้นได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่มีความคิดอยากจัดตกแต่งห้องนอนอยู่แล้ว โอกาสหน้าเรามาพบกับการจัดตกแต่งบ้านแบบต่างๆให้ดูสวยงามและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ของตกแต่งหรูหราราคาแพงแต่ว่าสวยงามแบบเรียบง่าย และเก๋ไก๋ในสไตล์ของคุณกันต่อนะ

Tag: #ไอเดียตกแต่งห้องนอน #เทคนิคการจัดห้องนอน#baaninspire.com #ไอเดียการจัดตกแต่งบ้าน